Welcome to Lifestyle Zone!

เสียงครวญครางจาก กระเพาะอาหาร

เสียงจาก กระเพาะอาหาร

ความจริงแล้ว กระเพาะอาหาร อักเสบสามารถรักษาให้หายขาดได้ ที่สำคัญในปัจจุบันพบว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคนี้คือเชื้อแบคทีเรีย

กระเพาะอาหารป่วย ช่วยที

โรคกระเพาะอาหารอักเสบจะมีลักษณะอาการปวดแสบปวดร้อนตรงบริเวณกระเพาะอาหารส่วนต้น และอาจลามไปถึงหน้าอก ทำให้รู้สึกจุกเสียด แสบอก คลื่นไส้และท้องอืด

โรคกระเพาะอาหารอักเสบสามารถแบ่งออกเป็น
1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบชนิดเฉียบพลัน จะเป็นในระยะสั้นๆ ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ก็หาย อาการสำคัญ คือ จะปวดท้องหรือจุกแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่ มักเป็นเวลากินอาหารหรือหลังอาหารเล็กน้อย คลื่นไส้ อาเจียน ในรายที่รุนแรงจะอาเจียนเป็นเลือดและถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
2.โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง จะเป็นแรมเดือนแรมปี ผู้ป่วยมักมีอาการไม่มากหรือแทบไม่มีอาการอะไรเลย นอกจากแน่นท้องเป็นๆ หายๆ เท่านั้น

กระเพาะอาหาร

ในปัจจุบันมีการค้นพบว่า โรคกระเพาะอาหารอักเสบไม่ได้เกิดจากการมีกรดในกระเพาะอาหารมากเท่านั้น แต่ยังเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า เฮลิโคแบกเตอร์ไพโลรี (Helicobacter pylori) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร

อย่างไรก็ตามอาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่โดยเฉพาะที่ปวดเรื้อรังมานานอาจเกิดจากโรคอื่นๆภายในช่องท้องอีกมากมาย เช่น โรคระบบทางเดินน้ำดี โรคตับอ่อน เป็นต้น

สำหรับสาเหตุอื่นๆที่จะกระตุ้นหรือทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ได้แก่
  • กินอาหารไม่ตรงเวลา
  • กินอาหารรสเผ็ดหรือรสจัด โดยเฉพาะในมื้อดึก
  • ความเครียด
  • เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์
  • กินยาที่มีฤทธิ์ระคายเยื่อบุกระเพาะอาหาร
  • สูบบุหรี่
  • แพ้อาหารบางอย่าง
  • อาการแทรกซ้อน อย่านอนใจ
  • เลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร พบได้บ่อยที่สุด ผู้ป่วยจะอาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นสีดำเหลว หรือหน้ามืด วิงเวียน เป็นลม
  • กระเพาะอาหารทะลุ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องช่วงบนอย่างเฉียบพลันรุนแรง หน้าท้องแข็งตึง กดเจ็บมาก
  • กระเพาะอาหารอุดตัน ผู้ป่วยจะกินได้น้อย อิ่มเร็ว อาเจียนหลังอาหารเกือบทุกมื้อ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง
  • กระเพาะอาหาร

    รักษาอย่างไร ให้โรคหายขาด
  • กินอาหารให้ตรงตามเวลาทุกมื้อ
  • กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย
  • กินอาหารจำนวนน้อยๆแต่บ่อยมื้อ ไม่ควรกินจนอิ่มมากในแต่ละมื้อ
  • หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ผลไม้ดอง และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมทั้งน้ำชา กาแฟ
  • ผ่อนคลายความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
  • กินยาลดกรดหรือยารักษาแผลกระเพาะอาหารติดต่อกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์
  • ถ้ามีอาการของภาวะแทรกซ้อน เช่น อาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระมีสีดำ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  • กินแอ๊ปเปิ้ล ฝรั่ง เพื่อช่วยทำความสะอาดทางเดินอาหาร
  • ควรกินกล้วยสุก เพื่อจะได้พลังงานและธาตุโพแทสเซียม ซึ่งช่วยควบคุมสมดุลของระดับของเหลวในร่างกาย
  • ส่วนคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป หากมีอาการคล้ายโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ให้ระมัดระวังโรคมะเร็งกระเพาะและมะเร็งตับด้วย อย่านิ่งนอนใจปล่อยให้อาการเล็กๆน้อยๆ ลุกลามกลายเป็นโรคร้ายนะคะ