Welcome to Lifestyle Zone!
5 โรคเสี่ยงของสาวนักช็อป
ช็อปปิ้ง ผิดวิธีอาจเสี่ยงเกิดโรค
วันนี้จะไป ช็อปปิ้ง ที่ไหนดีนะ คำถามแบบนี้ผุดขึ้นในความคิดของฉัน…ลูกน้ำ นักบัญชีวัย 32 ปี อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสุดสัปดาห์หรือหลังเลิกงาน เพราะสำหรับคนทำงานในเขตเมืองใหญ่อย่างฉัน คงไม่มีอะไรจะช่วยผ่อนคลายได้มากไปกว่าการช็อปปิ้ง
แต่เช้าวันจันทร์นี้ ฉันกลับเกิดอาการอ่อนเพลีย พานจะเป็นไข้นอนพักอยู่จนสาย อาการที่เป็นก็ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น จนต้องโทรศัพท์ไปลางานเพื่อไปหาหมอ
ไปถึงโรงพยาบาล ฉันได้พบ นายแพทย์สุวินัย บุษราคัมวงษ์ แพทย์สาขาอายุรกรรม โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 เมื่อคุณหมอซักอาการ…
“…เป็นไปได้ไหมคะว่าอาการที่เป็นนี้ เพราะการไปช็อปปิ้งในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะลูกน้ำอยู่ในห้างเกือบทั้งวันเลยค่ะ”
คุณหมอสุวินัยให้ความเห็นว่าการช็อปปิ้งมาราธอนของฉัน โดยไม่จัดสรรเวลาให้เหมาะสม และอาจไม่ได้ดูแลตัวเองให้ถูกสุขอนามัย อาจเป็นที่มาของอาการที่เป็นอยู่ได้
อาการพิษจากอากาศคุณภาพต่ำ
“ปกติคุณภาพอากาศจะลดลงเรื่อยๆ เช่น เดิมมีออกซิเจนอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อคนที่อยู่ข้างในสูดเข้าไปแล้วหายใจออกมา ออกซิเจนที่อยู่ในอากาศรอบตัวก็ลดลงเรื่อยๆ ยิ่งเป็นสถานที่ปิดอย่างห้างสรรพสินค้า อากาศถ่ายเทไม่ดี ฝุ่น ละอองและสารพิษในอากาศก็จะตกค้างอยู่ในอากาศนั้น
“เมื่อหายใจเข้าไปก็ทำให้เกิดมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดหัว มึนหัวได้ง่าย และอาจเสี่ยงโรคบางชนิด เช่น ปอดอักเสบ ซึ่งอาจจะมาจากเชื้อโรคชนิดต่างๆ หรือ ถ้าสารพิษในอากาศเข้าสู่ร่างกายแล้วถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ก็จะเป็นพิษกับร่างกายได้”
คลิกเพื่ออ่านหน้าถัดไป
หูเสื่อม
คุณหมอแนะนำฉันว่า หากที่บ้านมีเด็กๆ และชอบพาไปช็อปปิ้งด้วยเสมอ ก็ควรป้องกันปัญหาสุขภาพต่อไปนี้ด้วย
“เด็กๆ มักชอบไปเล่นในโซนที่มีเกมและเครื่องเล่นต่างๆ ซึ่งมีเสียงดัง โดยผู้ปกครองก็ต้องไปอยู่ที่นั่นด้วย เล่นแล้วเด็กจะเพลิน ทำให้เราต้องอยู่บริเวณนั้นนานๆ ซึ่งการที่เรา ต้องอยู่ในที่ที่ได้ยินเสียงดังอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเสียงสูงหรือเสียงต่ำที่ระดับใดระดับหนึ่งอย่างต่อเนื่องนั้น จะกระทบต่อระบบประสาทหูได้ ทำให้หูเสื่อมก่อนวัยอันควร และเครื่องเล่นต่างๆ ก็มักจะมีเสียงที่ดังมากกว่าปกติ”
ข้อเสื่อม เอ็นเสื่อม นิ้วล็อก
นอกจากการให้คำแนะนำเรื่องอาการป่วยของฉันแล้ว เมื่อคุณหมอหันมาเห็นกระเป๋าสะพายใบใหญ่และรองเท้าส้นสูงสุดเปรี้ยวของฉันที่ใส่มาในวันนี้ ก็อดเตือนต่อไปไม่ได้ว่า
“ถ้าเดินช็อปปิ้งเป็นประจำต้องระวังอย่าเดินนานเกินไป รองเท้าส้นสูงแบบนี้ไม่เหมาะ กระเป๋าที่หนักเกินไปก็ไม่เหมาะ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าแล้ว การที่น้ำหนักต้องทิ้งลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกยังกระทบต่อกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะข้อเข่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้เกิดปัญหาข้อเสื่อม
“นอกจากนี้การหิ้วถุงช็อปปิ้งใส่ของที่มีน้ำหนักมากเป็นเวลานานๆ เสี่ยงต่อการเกิด พังผืดที่ข้อมือ ทำให้เอ็นที่บริเวณมือเสื่อม และอาจทำให้นิ้วล็อกได้ด้วย”
เกินไป ไม่เหมาะกับสรีระเท้า หรือไม่สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะพายกระเป๋าหรือหิ้วถุงสินค้าซึ่งมีน้ำหนักมาก ทำให้การรับน้ำหนักของร่างกายด้านซ้ายและด้านขวาไม่สมดุล
คลิกเพื่ออ่านหน้าถัดไป
ไข้หวัดใหญ่
คุณหมอสุวินัยยังบอกต่อ อีกว่ายังมีโรคในระบบทางเดินหายใจอีกโรคหนึ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
“อีกโรคหนึ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับนักช็อปคือ ไข้หวัดใหญ่ รวมถึงไข้หวัดต่างๆ ด้วย เพราะเชื้อไวรัสเป็นเชื้อที่ติดต่อได้ง่าย สำหรับที่ที่มีคนแออัดเยอะๆ อาจเป็นไปได้ที่มีผู้ที่มีเชื้ออยู่มาก เชื้อโรคก็มากตามไปด้วยทำให้เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงในการติดเชื้อก็ง่ายขึ้นด้วย เชื้อหวัดแม้ว่า เมื่อออกมาสัมผัสกับอากาศจะอยู่ได้ไม่นาน แต่เมื่ออยู่ในที่อับ ที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ ก็จะอยู่นานขึ้น
“ส่วนใหญ่จะเกิดการติดเชื้อจากการสัมผัสมากกว่าการหายใจ อย่างถ้ามือเราไปสัมผัสโดนน้ำมูกของผู้ป่วยที่เขามาสัมผัสบริเวณต่างๆ ไว้ก็เสี่ยงติดโรคได้”
ข้อมูลจากคุณหมอสอดรับกับหนังสือ Why We Buy ที่ฉันเคยอ่าน ซึ่งกล่าวถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าก่อ่นตัดสินใจซื้อ ใครๆ ก็อยากสัมผัสสินค้าด้วยกันทั้งนั้น เพราะอยากรู้ว่าสินค้าที่จะซื้อนั้นมีคุณภาพอย่างไร และให้ความรู้สึกอย่างไร
แล้วคุณหมอสุวินัยก็อธิบายในสิ่งที่ฉันกำลังคิดถึงอยู่พอดีว่า
“เชื้อหวัดมักจะเข้าสู่ร่างกายได้จากการสัมผัส ดังนั้นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือการลองเสื้อผ้า เพราะถ้ามีคนลองก่อนเราแล้วทิ้งเชื้อหวัดติดไว้ที่เสื้อผ้า แล้วเราไปลองต่อ เมื่อลองเสร็จ หากไม่ได้ล้างมือแล้วมาหยิบขนมกินหรือ มาจับหน้าจับตา เราเองมีโอกาสติดโรคได้ ร้ายกว่านั้น เชื้อโรคในกลุ่มหวัดยังมีโอกาสที่จะติดอยู่ตามโต๊ะ – เก้าอี้ก็ได้”
วัณโรค
คุณหมออธิบายว่า “ความเสี่ยงต่อวัณโรคทุกวันนี้คือ ถ้ามีผู้ติดเชื้ออยู่ในบริเวณเดียวกัน เราก็มีโอกาสติดเชื้อได้ โดยติดได้จากการไอ จาม เมื่อสูดหายใจเอาฝอยละอองเสมหะที่มีเชื้อวัณโรคเข้าไป หรืออาจติดจากการสัมผัสจากเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามโต๊ะ ซึ่งเชื้อจะมีชีวิตอยู่ได้ในอุณหภูมิห้องนานเป็นเดือน บางทีไปจับแล้วมาลูบหน้าลูบตา เกา ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้”
เลือกช็อปปิ้งในที่ที่มีการระบายอากาศดี แสงแดดส่องถึง เพราะเชื้อวัณโรคไม่ทนต่อแสงแดด รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะร่างกายที่แข็งแรงช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า การที่ไปเตร็ดเตร่ในห้างสรรพสินค้าเพราะคิดว่าเป็นการพักผ่อนครั้งละนานๆ นั้น อาจกลายเป็นดาบสองคมที่หวนกลับมาทำร้ายสุขภาพได้
ต่อไปฉันขอเลือกพักผ่อนแบบธรรมชาติเห็นจะดีกว่ากันเยอะเลย จริงไหมคะ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 282