Welcome to Lifestyle Zone!
3 ประสบการณ์หายมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยอาหาร การออกกำลังกาย และวิธีคิดแบบชีวจิต
ประสบการณ์หาย มะเร็งลำไส้ใหญ่
คำถาม
มีเนื้องอกในลำไส้ ยังไม่เป็นมะเร็ง แต่มีความกังวลมากค่ะ จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรดี ตอนนี้พยายามกินผักผลไม้ให้มากขึ้นอยู่ค่ะ
บ.ก.ขอตอบคำถามให้
เมื่อได้เห็นคำถามนี้ ก็เห็นใจผู้ถามอยู่ในที แต่ด้วยความที่บ.ก.ไม่ใช่หมอ แค่มีประสบการณ์อยู่กับข้อมูลสุขภาพ และประสบการณ์ความเจ็บป่วยของคน ก็เลยคิดว่าคงได้แต่ปลอบโยนไป
โดยเฉพาะผู้ถามได้ไปตรวจกับแพทย์แผนปัจจุบัน ใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว ประกอบกับเริ่มปรับอาหารการกินให้เป็นอาหารจำพวกผักผลไม้ ซึ่งเต็มไปด้วยไฟเบอร์หรือกากใย ซึ่งดีต่อลำไส้อยู่แล้ว สิ่งที่ บ.ก.จะทำได้คือ มอบกำลังใจให้กินผักผลไม้และอาหารสุขภาพต่อไป ด้วยการยกประสบการณ์ของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่ดีขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และอาหารการกิน
ดัง 3 ท่านต่อไปนี้
คุณอนุรัตน์ เติมกิจขจรสุข
เริ่มจากมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณชายโครง ดึงหน่วงไปถึงช่องท้อง และมีอาการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไปหาหมอได้ยามากิน แต่ก็ไม่หาย หลังจากนั้นอีก 7 วัน จึงไปโรงพยาบาลตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด พบก้อนเนื้อก้อนโตอยู่ในลำไส้ และกำลังแตกลาม จึงต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน
โดยการผ่าตัดนั้น ต้องเอาลำไส้ออกด้วย ซึ่งมีผลต่อการขับถ่าย ที่เขาจะต้องกินยาเพื่อให้อุจจาระรวมตัวเป็นก้อน ทว่าเมื่อออกจากโรงพยาบาล เขากินผักผลไม้นานาชนิดแทนยาดังกล่าว ซึ่งก็ให้ผลดีเท่ากัน
หลังจากนั้น เขาให้คีโม พร้อมเริ่มปฏิบัติตัวตามแนวทางชีวจิต ซึ่งคือปรับมากินอาหารชีวจิต ออกกำลังกายตามสมควร พร้อมทั้งปรับวิธีคิด เพื่อปรับการใช้ชีวิตให้สมดุลยิ่งขึ้น นั่นแปลว่าจากที่เคยเอาแต่ทำงาน ก็มีเวลาผ่อนคลายกับครอบครัวมากขึ้น เขากลายเป็นคนใจเย็นกับลูก ทำอะไรก็ใคร่ครวญและพิจารณาให้รอบคอบยิ่งขึ้น
(อ้างอิง คอลัมน์ประสบการณ์สุขภาพ นิตยสารชีวจิต)
คลิกเพื่ออ่านหน้าถัดไป
อาหารชีวจิต 1 มื้อ มีสัดส่วนการกินดังนี้
- กินข้าวกล้อง หรือขนมปังโฮลวีต จำนวน 30-50% ของมื้ออาหาร
- กินผักสดและสุกจำนวน 15-30%
- กินโปรตีนจากปลาและพืช จำนวน 10-20%
- กินของกินเล่น เช่น ผลไม้ไม่หวาน ถั่ว จำนวน 10%
***งดแป้งขาว น้ำตาลขาว เนื้อสัตว์ใหญ่ เดลี่โพรดักซ์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และน้ำตาล
คุณอรอนงค์ จรรยาดิลก
มีอาการเลือดไหลปนมากับอุจจาระ ไม่รู้สึกเจ็บปวด ไปพบแพทย์ได้ยามากิน แต่อาการก็ยังไม่หาย จึงไปตรวจกับผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร หมอนำชิ้นเนื้อไปตรวจ และพบเซลล์มะเร็ง จึงต้องผ่าตัดด่วน และต้องให้คีโม
แต่หลังจากการผ่าตัด คุณอรอนงค์ปฏิเสธการให้คีโม หันมาปรับชีวิตตามแนวทางชีวจิตอย่างเข้มข้น ทั้งการกินอาหาร การใช้ชีวิต โดย…
ผลปรากฏว่า ก่อนผ่าตัด ค่าเซลล์มะเร็งอยู่ที่ 2.9 และก็ลดลงเรื่อยๆ (คนปกติอยู่ที่ 0.4) นอกจากนี้อาการภูมิแพ้ที่เคยเป็นก็หายไป ประจำเดือนมาปกติ
(อ้างอิง คอลัมน์ประสบการณ์สุขภาพ นิตยสารชีวจิต)
คุณวิจารณ์ ยิ่งยืนยง
เพราะใช้ชีวิตผิด กล่าวคือ กินเนื้อสัตว์เป็นหลัก ดื่มกาแฟวันละ 7 แล้ว สูบบุหรี่วันละเกือบ 2 ซอง วันหนึ่งก็เกิดอาการปวดช่องท้อง สลับกับหายอย่างต่อเนื่อง และอาการปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนไปตรวจพบว่า ลำไส้ตีบผิดปกติ ต้องผ่าตัดโดยด่วน
โดยหมอผ่าตัดลำไส้ทิ้งหนึ่งฟุต และพบว่าลำไส้ที่ตัดออกมานั้นมีก้อนมะเร็งร้ายจับตัวกันแน่น มีขนาดเท่าลูกมะพร้าว
คุณวิจารณ์จึงหักดิบทุกอย่าง รับมีโมเพียง 5 เข็ม และเริ่มกินข้าวกล้องหุงสุกกับผักผลไม้ ทำดีท็อกซ์ และออกกำลังกายด้วยการรำกระบอง
อาการต่างๆ จึงดีขึ้น และหายขาด
(อ้างอิง คอลัมน์ประสบการณ์สุขภาพนิตยสารชีวจิต)
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนสุขภาพ จนหายจากโรคร้ายของทั้งสามท่าน จะเป็นตัวอย่าง และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่าน ที่ประสบปัญหาสุขภาพ
อย่าลืมนะคะ สงสัยอะไร อินบ็อกซ์เข้ามา บ.ก.ขอตอบคำถามให้ค่ะ