Welcome to Lifestyle Zone!

ไข่…ของแสลงอีสุกอีใส จริงหรือไม่

ไข่ ไม่ใช่ของแสลง สามารถกินได้ตอนเป็น อีสุกอีใส

” อีสุกอีใส ” เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า วาริเซลลา (Varicella virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดงูสวัด คนสมัยก่อนมีความเชื่อว่าหากเป็นอีสุกอีใส ห้ามกินไข่ เพราะจะทำให้เป็นแผลเป็น จึงทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

Question

ลูกเป็นอีสุกอีใส โบราณว่าห้ามกินไข่และเนื้อสัตว์เพราะเป็นของแสลง ตรงนี้อยากทราบว่าจริงหรือไม่และมีที่มาที่ไปอย่างไรคะ

Answer

หลายคนเกิดความสงสัยอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับโรคอีสุกอีใส ว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วมีวิธีการกินอาหารและปฏิบัติตัวอย่างไรที่ทำให้ไม่เกิดแผลเป็นในภายหลัง

หากวิเคราะห์ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย การที่ร่างกายเกิดผื่นและตุ่มเม็ดขึ้นบริเวณผิวหนังอาจมีสาเหตุมาจากธาตุในร่างกายทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ ไม่สมดุล การเป็นไข้มีความร้อนเกิดขึ้นในร่างกายจะทำให้ธาตุไฟมากเกินไป จึงจำเป็นต้องระบายความร้อนออกทางผิวหนัง และพิษความร้อนนั้นจะกระทุ้งออกมาเป็นผื่นตุ่มเม็ดตามผิวหนังนั่นเอง

อีสุกอีใส

วิธีดูแลรักษาหรือบรรเทาอาการจึงต้องลดความร้อนของธาตุไฟในร่างกายลงเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพธาตุให้สมดุลซึ่งต้องใช้ตัวยาที่มีรส (ฤทธิ์) เย็น ผื่นหรือตุ่มเม็ดก็จะยุบหายไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องระวังในโรคนี้ก็คือ เรื่องของความร้อนในร่างกายที่จะไปกระตุ้นให้เกิดผื่นเม็ดขึ้น

เมื่อพิจารณาดูอาหารประเภทไข่และเนื้อสัตว์ (กองบรรณาธิการ – สำหรับชีวจิตไม่แนะนำให้กินเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น หมู ไก่ วัว) พบว่าไม่ได้จัดเป็นอาหารที่มีรสร้อน จึงเป็นความเชื่อที่ผิดสามารถกินได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในสมัยก่อนมีการกล่าวไว้เกี่ยวกับอาหารที่แสลงโรคผื่นเม็ดที่เกิดขึ้นว่า ควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารที่มีรสเผ็ดจัดร้อนจัด อาหารคาวจัด สุกๆ ดิบๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการคันและมีเม็ดผื่นมากขึ้น

ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคอีสุกอีใสจึงควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรักษาความสะอาดของร่างกายให้ดี จะได้ไม่เกิดแผลเป็น

อาจารย์จิตวิไลประไมย์

สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์  สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 405