Welcome to Lifestyle Zone!

เทคนิค “กิน” ต้านอาการนิ่วในถุงน้ำดี

มารู้จัก นิ่วในถุงน้ำดี และเทคนิคการกินอาหารเพื่อป้องกันการเกิดโรค

ทราบหรือไม่คะว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ที่รีบเร่ง และขาดการเลือกอาหาร รวมถึงไม่ใส่ใจต่อสุขภาพเท่าที่ควรของคนยุคนี้ ทำให้อาจมีความเสี่ยงการเป็น “ โรคนิ่วในถุงน้ำดี ” มากขึ้น

วันนี้เรามาทำความรู้จัก “เทคนิคการกิน เพื่อต้านอาการนิ่วในถุงน้ำดี” กันดีกว่า

แต่มาเริ่มต้นด้วยการรู้จักโรคนี้กันก่อนนะ

นิ่วในถุงน้ำดี คืออะไร

          ก้อนนิ่วที่ก่อตัวในถุงน้ำดี คือ ก้อนแคลเซียม หือกินปูนที่ตกผลิกในถุงน้ำดีนั่นเองค่ะ โดยสาเหตุของการตกผลึก สันนิษฐานว่ามาจากการติดเชื้อในทางเดินน้ำดี (ส่วนใหญ่เกิดจากการกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ)  หรืออาจเกิดจากความไม่สมดุลของสารประกอบในน้ำดี รวมถึงผู้มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูง สตรีที่มีลูกแล้ว และผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคทาลัสซีเมีย ก็มีโอกาสการเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นกว่าคนทั่วไปอีกด้วย

นิ่วในถุงน้ำดี

สังเกตอาการอย่างไร

  1. ท้องอืด ท้องเฟ้อ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร ยิ่งอาหารรสมันๆ จะยิ่งเกิดอาการชัดเจน
  2. ปวดเสียดท้อง บริเวณชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ บางรายปวดร้าวไปถึงสะบักขวา หรือหลัง และใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะดีขึ้น
  3. ตัวเหลือง ตาเหลือง
  4. บางรายอาจมีอาการถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันร่วมด้วย โดยจะปวดท้องยริเวณชายโครงขวามากขึ้น กดแล้วเจ็บ อาจมีไข้ร่วม หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจีย

มีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์นะคะ

คลิกเพื่ออ่านต่อที่หน้าถัดไป

กินอย่างไร “ต้านโรคนิ่วในถุงน้ำดี”

โรคนี้ป้องกันได้โดยการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติค่ะ ซึ่งวิธีการที่สำคัญคือ การควบคุมการกิน นั้นเอง

อาหารที่เป็น “ยาดีป้องกันการเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี” คือ อาหารที่มีแป้งและไขมันต่ำ แต่มีใยอาหารสูง ดังนี้

นิ่วในถุงน้ำดี

  1. อาหารจำพวกแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต หรือเส้นพาสต้าโฮลวีต
  2. ผัก และผลไม้สด
  3. ถั่วต่างๆ ซึ่งให้ใยอาหารชนิดละลายในน้ำ

นอกจากนี้ มี “อาหารที่ควรงด” เพื่อป้องกันโรคนี้นะคะ ดังนี้

  1. อาหารรสมัน โดยเฉพาะอาหารประเภททอด
  2. อาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่ไขมันสูง

รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมเลือกกินให้เหมาะสมนะคะ

ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 133