Welcome to Lifestyle Zone!
เทคนิค “กิน” ต้านอาการนิ่วในถุงน้ำดี
มารู้จัก นิ่วในถุงน้ำดี และเทคนิคการกินอาหารเพื่อป้องกันการเกิดโรค
ทราบหรือไม่คะว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ที่รีบเร่ง และขาดการเลือกอาหาร รวมถึงไม่ใส่ใจต่อสุขภาพเท่าที่ควรของคนยุคนี้ ทำให้อาจมีความเสี่ยงการเป็น “ โรคนิ่วในถุงน้ำดี ” มากขึ้น
วันนี้เรามาทำความรู้จัก “เทคนิคการกิน เพื่อต้านอาการนิ่วในถุงน้ำดี” กันดีกว่า
แต่มาเริ่มต้นด้วยการรู้จักโรคนี้กันก่อนนะ
นิ่วในถุงน้ำดี คืออะไร
ก้อนนิ่วที่ก่อตัวในถุงน้ำดี คือ ก้อนแคลเซียม หือกินปูนที่ตกผลิกในถุงน้ำดีนั่นเองค่ะ โดยสาเหตุของการตกผลึก สันนิษฐานว่ามาจากการติดเชื้อในทางเดินน้ำดี (ส่วนใหญ่เกิดจากการกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ) หรืออาจเกิดจากความไม่สมดุลของสารประกอบในน้ำดี รวมถึงผู้มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูง สตรีที่มีลูกแล้ว และผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคทาลัสซีเมีย ก็มีโอกาสการเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นกว่าคนทั่วไปอีกด้วย
สังเกตอาการอย่างไร
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร ยิ่งอาหารรสมันๆ จะยิ่งเกิดอาการชัดเจน
- ปวดเสียดท้อง บริเวณชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ บางรายปวดร้าวไปถึงสะบักขวา หรือหลัง และใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะดีขึ้น
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- บางรายอาจมีอาการถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันร่วมด้วย โดยจะปวดท้องยริเวณชายโครงขวามากขึ้น กดแล้วเจ็บ อาจมีไข้ร่วม หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจีย
มีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์นะคะ
คลิกเพื่ออ่านต่อที่หน้าถัดไป
กินอย่างไร “ต้านโรคนิ่วในถุงน้ำดี”
โรคนี้ป้องกันได้โดยการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติค่ะ ซึ่งวิธีการที่สำคัญคือ การควบคุมการกิน นั้นเอง
อาหารที่เป็น “ยาดีป้องกันการเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี” คือ อาหารที่มีแป้งและไขมันต่ำ แต่มีใยอาหารสูง ดังนี้
- อาหารจำพวกแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต หรือเส้นพาสต้าโฮลวีต
- ผัก และผลไม้สด
- ถั่วต่างๆ ซึ่งให้ใยอาหารชนิดละลายในน้ำ
นอกจากนี้ มี “อาหารที่ควรงด” เพื่อป้องกันโรคนี้นะคะ ดังนี้
- อาหารรสมัน โดยเฉพาะอาหารประเภททอด
- อาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่ไขมันสูง
รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมเลือกกินให้เหมาะสมนะคะ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 133