Welcome to Lifestyle Zone!
ข้อควรรู้ ก่อนไปนวดเท้า
การ นวดเท้า ช่วยให้สุขภาพดีและป้องกันการเกิดโรค
ธุรกิจบริการที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนี้ เห็นทีต้องนับร้านนวดหรือสปาทั้งหลายไว้ ในลำดับต้นๆ เพราะไม่ว่าที่ไหนก็มีร้านเล็กๆ ที่ให้บริการ นวดเท้า นวดตัว กระจายอยู่ทั่วไปทั้งแผนไทยแผนเทศและยิ่งผู้คนใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ เคร่งเครียดจนร่างกายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามากขึ้นเท่าใด ความนิยมในการนวดดูจะมากขึ้นเท่านั้น
นวดเท้าในไทย
คุณวัชรีพร คงวิลาด เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาตำราแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า
บริเวณฝ่าเท้าของมนุษย์มีเส้นประสาทที่เชื่อมต่อไปยังจุดต่างๆ ทั่วร่างกาย ตั้งแต่สมองเรื่อยมาจนถึงขาถึงเท้า จนมีการพัฒนาความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ของอวัยวะในร่างกายออกมาเป็นแผนที่บนฝ่าเท้าเพื่อง่ายและสะดวกในการศึกษา
“ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์การดูแลสุขภาพของชาวจีนจะพบว่าชาวจีนให้ความสำคัญกับเท้ามากก่อนนอนทุกครั้งจะต้องล้างเท้าให้สะอาดด้วยการแช่น้ำอุ่น และเช็ดให้แห้งจนกลายเป็นความเคยชินจึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศจีนมีการนวดกดจุดฝ่าเท้ามาเป็นเวลานานนับหลายพันปี
“ในประเทศไทยเองก็ใช่ว่าจะไม่มี สมัยก่อนตามบ้านเรือนทางขึ้นบ้านจะมีตุ่มน้ำ หรือไม่ก็อ่างสำหรับล้างเท้าก่อนขึ้นบ้านเสมอแต่ปัจจุบันอ่างหรือตุ่มสำหรับล้างเท้าไม่มีอีกแล้ว”
ส่วนหลักฐานเกี่ยวกับการนวดเท้าโดยตรงของไทยนั้นคุณวัชรีพรกล่าวว่า ไม่ปรากฏ แต่ในหลักทฤษฎีเส้น จุด และโรคของไทยมีการกล่าวถึง เส้นประธานสิบ ซึ่งหมายถึงเส้นที่วิ่งไปที่เท้าและมีผลเกี่ยวข้องกับโรคและอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย
คลิกอ่านต่อที่หน้าถัดไป
สำหรับการนวดเท้าเพื่อสุขภาพของไทยในปัจจุบัน คุณวัชรีพรบอกว่ามีรากฐานมาจากการนวดเท้าของประเทศจีน โดย อาจารย์ยุพิน โตเอี่ยม ได้ไปอบรมการนวดเท้าที่ประเทศสิงคโปร์
“หลังจากนั้นคุณยุพินก็กลับมาทำงานร่วมกับสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ (สมัยนั้น) และมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา ซึ่งได้ร่วมกันจัดอบรมฝึกอาชีพให้แก่ประชาชนที่ตกงาน และมีการนำการนวดเท้าเข้ามาสอนด้วย โดยพัฒนาจากความรู้ที่อาจารย์ยุพินได้ศึกษาผสานเข้ากับการนวดแผนไทยรวมทั้งได้รับคำแนะนำจาก อาจารย์ฉีซุ่ยหง และคณะ จากมูลนิธิวิถีธรรม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการนวดเท้ารักษาโรคจากประเทศไต้หวันมาช่วยสอน
“นอกจากนั้นได้มอบหมายให้ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นวิจัยการนวดเท้านี้ ซึ่งพบว่าสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อสะโพก ทำให้หายเมื่อยและเป็นที่พอใจของผู้ถูกนวด”
รูปแบบการนวดเท้าในประเทศไทยมี 2 แบบ
- การนวดเท้าแบบไทย ที่เรียกว่า “การนวดเท้าเพื่อสุขภาพ” ซึ่งมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนาเป็นผู้พัฒนารูปแบบและใช้อบรมอย่างกว้างขวางในเวลานี้ มีจุดที่เกี่ยวข้องกับปลายประสาทที่สัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายจำนวน 61 จุด
- การนวดเท้าแบบจีน ที่เรียกว่า “การนวดกดจุดสะท้อนเท้า” มีหลักการนวดจุดจำนวน 62 จุดที่เท้า
ประโยชน์ของการนวดเท้า
แม้จะรู้ว่าการนวดเท้านั้นดีต่อร่างกาย แต่ถ้าถามต่อว่า แล้วดีอย่างไร ต่อระบบไหนบ้าง คงต้องถาม คุณสมชาย ช้างแก้วมณี แพทย์แผนไทยประยุกต์ กลุ่มงานวิจัยทางคลินิก สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
คุณสมชายบอกว่า การนวดเท้าเพื่อสุขภาพเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ ช่วยลดความเครียด คลายความปวดเมื่อย และกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ส่วนประโยชน์ของการนวดฝ่าเท้า คือ
- ช่วยส่งเสริมสุขภาพ โดยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง ทำให้อวัยวะต่างๆ ทำหน้าที่ได้อย่างสมดุล
- ช่วยป้องกันอาการและโรคต่างๆ เช่น ท้องผูก โรคหืด โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ โรคไต ปวดศีรษะไมเกรน ไซนัส โรคเครียด ฯลฯ
- ส่งผลดีในด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
คลิกอ่านต่อที่หน้าถัดไป
การเลือกร้านและหมอนวด
คุณอาทิตย์ วิรุฬห์อนันต์ วิทยากรนวดไทย ประจำศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย สถาบันการแพทย์แผนไทย เป็นผู้อธิบายให้ฟัง
คุณอาทิตย์บอกว่า ร้านนวดส่วนใหญ่จะเป็นร้านนวดเพื่อสุขภาพแต่หากเป็นการนวดเพื่อบำบัดวินิจฉัย หรือฟื้นฟูสมรรถภาพ ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ผู้นวดต้องขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต “สาขาการแพทย์แผนไทยหรือเวชกรรมโบราณ” จากคณะกรรมการวิชาชีพก่อน และต้องดำเนินการในสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตแล้วเท่านั้น
“สิ่งที่เราสามารถพิจารณาในการเลือกร้านคือ สภาพของสถานที่ควรมีอากาศอบอุ่นกำลังสบาย ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป และอุปกรณ์ในการนวด เช่น ไม้กดจุด ผ้าขนหนู ครีบบำรุงผิวบาล์ม สะอาดมีคุณภาพความสะอาดของเสื้อผ้าผู้นวด รวมทั้งการพูดจา มารยาทเรียบร้อย แล้วอาจจะดูด้วยว่ามีใบประกาศนียบัตรการนวดจากที่ไหน ส่วนใหญ่ทางร้านจะติดไว้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าอยู่แล้ว”
ส่วนการเลือกหมอนวดนั้น คุณอาทิตย์บอกว่า การนวดเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง คนที่ได้รับการฝึกฝนการนวดมาจะทราบว่าควรลงน้ำหนักมือ หรือภาษาของหมอนวดที่เรียกว่า “การแต่งรสมือ” ให้พอเหมาะพอดีกับแต่ละคนได้อย่างไร
นอกจากนี้การพูดคุยซักถามถึงความผิดปกติหรือความเจ็บป่วยของร่างกายก่อนการนวดก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น มีกระดูกแตกหักตรงไหนบ้าง หรืออาการบาดเจ็บที่เท้าบริเวณต่างๆ
คลิกอ่านต่อที่หน้าถัดไป
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมบางคนรู้สึกเจ็บปวดหรือช้ำตามร่างกายเวลาไปนวด คุณอาทิตย์บอกว่าอยู่ที่การลงน้ำหนักมือของหมอนวดแต่ละคน
“การนวดต้องพอดี เจ็บพอทนได้ เราต้องดูสภาพของผู้ที่รับการนวดด้วยว่ามีอาการเจ็บป่วยอะไรมาก่อนบ้าง”
ส่วนข้อปฏิบัติในการนวดคือ
– ร่างกายผู้ถูกนวดต้องอยู่ในสภาพที่ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียดไม่ใส่เข็มขัด นาฬิกา และแหวน
– ก่อนได้รับการนวด ควรล้างมือล้างเท้าให้สะอาด
นอกจากนั้นกรณีที่ไม่ควรนวดเท้า คือ หลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ ร่างกายกำลังอ่อนเพลียมาก หลังดื่มสุราหรือหลังอาบน้ำเสร็จทันที มีโรคติดเชื้อ หรือมีไข้สูง หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงต่างๆ กระดูกเท้าผิดรูป โรคหลอดเลือด หลอดน้ำเหลืองอักเสบหรืออุดตัน และระหว่างมีประจำเดือน
เมื่อมั่นใจว่ามีความรู้เกี่ยวการนวดเท้าแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาไปลองนวดแล้ว
คิดไว้ว่าจะจดจำวิธีการนวดมานวดให้คนที่บ้านบ้าง จะได้สุขภาพดีกันทั้งบ้านไปเลยค่ะ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับ 240