Welcome to Lifestyle Zone!
เตรียมตัวยังไง? เดินทางไกล สุขภาพเลิศ
เดินทางไกล ไปได้ทั่ว แถมสุขภาพดีเลิศ
เมื่อเข้าสู่ช่วงเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวอย่างปีใหม่ สงกรานต์ ก็ถึงเวลาที่คุณต้องเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันแล้วใช่มั้ยคะ …แต่จะเตรียมตัวอย่างไรให้ทริปเดินทางของคุณส่งเสริมให้ได้สุขภาพดี ปลอดภัย และได้สนุกเต็มที่โดยไม่ต้องพะวักพะวง หรือประสบปัญหากับการเดินทางที่ยาวนานด้วย …วันนี้เรามีคำตอบ
ทั้งการเดินทางโดยรถส่วนตัว รถประจำทาง เรือ และเครื่องบิน
แถมด้วยทริกซ์แก้อาการแพ้ที่สูง อาการอาหารเป็นพิษ และคำแนะนำสำหรับคนมีโรคประจำตัวที่ต้องเดินทางด้วย …ไปติดตามกันเลย
ทำอย่างไรถึงจะไม่เมารถเมาเรือ
อาการเมารถเมาเรือหรือเมาการเดินทางเกิดจากการที่ระบบประสาทที่เกี่ยวกับการทรงตัวของร่างกายในช่องหูชื่อ Vestibular organ ทำงานไม่ปกติ ซึ่งระบบประสาทส่วนนี้จะมีน้ำชนิดหนึ่งที่เป็นตัวช่วยควบคุมให้ร่างกายทรงตัวได้ตามปกติ ในขณะที่เราเดินทางจะเกิดการเหวี่ยงไปมาของน้ำในหูเพื่อปรับสมดุล เกินความสามารถในการปรับตัว ร่างกายจึงแสดงอาการมึน งง หน้าซีด เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนออกมาในที่สุด แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เมื่อคุณจำเป็นต้องเดินทางไม่ว่าจะทางรถ หรือทางเรือ หากปฏิบัติตัวตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ น่าจะช่วยให้คุณรู้สึกสนุกกับการเดินทางได้
นอกจากนี้อาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ เช่นไข้หวัดก็อาจส่งผลให้มีอาการมึนงง คลื่นไส้ หรืออาเจียน ได้ง่ายกว่าภาวะปกติ อย่ากระนั้นเลย หากปฏิบัติตามนี้ การเดินทางในแต่ละครั้งของคุณจะได้ไม่มีอุปสรรคให้หงุดหงิดใจ
แต่หลายคนเดินทางไกลด้วยเครื่องบิน… อยู่บนเครื่องจะดูแลตัวเองอย่างไร เรามีคำแนะนำค่ะ (หน้าถัดไปนะ)
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน
หากต้องสัญจรด้วยเครื่องบิน และใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานาน นอกจากอาการเมาเครื่องบินแล้ว อาจมีปัญหาอื่นๆตามมาได้แก่
วิธีการปรับร่างกายเพื่อให้เข้ากับสถานที่ที่ไปอย่างรวดเร็ว
ควรปรับตัวให้เข้ากับเวลาท้องถิ่นให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
ส่วนคนที่มีอาการดังต่อไปนี้ห้ามเดินทางโดยเครื่องบินเด็ดขาดค่ะ
- ภาวะโลหิตจาง ซีดมากๆ หรือระดับฮีโมโกลบินน้อยกว่า 8.5
- อยู่ในภาวะหัวใจวายที่ยังควบคุมไม่ได้
- โรคอัมพาต หรือเส้นเลือดในสมองอุดตัน
- โรคเลือดออกในกระเพาะอาหารอย่างน้อย 3 สัปดาห์
- คนที่เคยผ่าตัดใส่ลมเข้าไปในช่องท้องภายใน 14 วัน
อีกปัญหาสำคัญของคนเดินทางไกลคือ “การขึ้นที่สูง” และอาการ “อาหารเป็นพิษ” เราบอกทางแก้ไว้แล้ว… หน้าถัดไปนะ ^^
ป้องกันอาการเมาที่สูง
สำหรับคนที่พิสมัยการปีนป่ายภูเขา หรือคนที่เดินทางไปในบริเวณที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 เมตร ออกซิเจนจะมีน้อย บางครั้งหากร่างกายไม่พร้อม อาจทำให้เกิด อาการเมาที่สูง (high altitude sickness) ได้ จึงรู้สึกวิงเวียน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หายใจกระชั้น สมองล้า และง่วงงุน หากคุณมีอาการดังกล่าวไม่ควรฝืนขึ้นที่สูงต่อไป ควรให้เวลากับร่างกายเพื่อปรับตัวกับออกซิเจนที่เบาบาง แล้วอาการจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน ระหว่างนั้นควรปฏิบัติตัวดังนี้ค่ะ
อาหารเป็นพิษปัญหายอดฮิตของนักเดินทาง
เมื่อเดินทางถึงที่หมายแล้ว ก็ใช่ว่าจะหมดห่วงนะคะ บางพื้นที่ที่เราต้องเดินทางไป อาหารการกินที่แตกต่างจากบ้านเราอย่างสิ้นเชิง ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นเท่าตัว เพราะอาจทำให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษได้ โดยเฉพาะคนเอเชียอย่างเราๆ นั้น ไม่มีเอนไซม์ในการย่อยนม ส่วนคนตะวันตกก็คุ้นลิ้นกับอาหารรสอ่อน อย่างไรก็ตาม หากเลี่ยงไม่ได้ อย่าลืมทำตามคำแนะนำต่อไปนี้นะคะ
- กินอาหารที่ปรุงสุกเท่านั้น เมื่อจำเป็นต้องกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ปลา หรืออาหารทะเล ควรกินเฉพาะที่ปรุงสุกดีแล้วเท่านั้น
- เมื่อต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหรือประเทศเขตร้อนอื่นๆ ไม่ควรกินอาหารที่ปรุงเสร็จนานกว่า 3 ชั่วโมง (ถ้าอากาศร้อนมากก็ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง) และหากเกิดอาการท้องร่วง ควรดื่มของเหลว หรือดื่มน้ำผสมเกลือแกงและน้ำตาลมากๆ
- บริโภคน้ำอย่างระมัดระวัง หากเดินทางไปยังประเทศกำลังพัฒนา ควรเลี่ยงน้ำหรือน้ำแข็งที่ทำจากน้ำประปา และอย่าใช้น้ำประปาแปรงฟันหรือล้างอาหาร ส่วนน้ำดื่มควรดื่มน้ำต้มสุก หรือไม่ก็ดื่มน้ำจากขวดที่ปิดฝาสนิทเท่านั้น หรือใช้ยาเม็ดฆ่าเชื้อสำหรับน้ำดื่ม หรือใช้เครื่องกรองน้ำด้วยซันไอโอดีน
นอกจากนี้ คนที่กลัว “ตัวดำ” ต้องติดตามหน้าถัดไปนะ มีทริกซ์ดีๆ มาบอกค่ะ
ป้องกันปัญหาสุขภาพจากภูมิอากาศ
สำหรับผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในฤดูร้อน หรือเดินทางไปยังแถบประเทศที่มีแดดจัด โดยเฉพาะประเทศแถบแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชียบางประเทศ แสงแดดที่รุนแรงอาจทำให้ ผิวหนังไม้เกรียม (sun burn) ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ หากคุณมีโปรแกรมต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดๆ เรามีวิธีหลีกเลี่ยงแสงร้อนๆของดวงอาทิตย์มาบอกค่ะ
- หลีกเลี่ยงแดดช่วงเวลา 11.00-15.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แดดแรงที่สุด
- เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัด ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป โดยทาก่อนออกแดดประมาณครึ่งชั่วโมง และทาซ้ำๆทุก 2 ชั่วโมง
- หลังจากว่ายน้ำ หรืออาบน้ำใหม่ เมื่อจำเป็นต้องออกไปอยู่ท่ามกลางแสงแดด ควรสวมหมวกปีกกว้าง และใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด (สำหรับเด็กทารกควรให้อยู่ในที่ร่มเสมอ เพราะผิวยังอยู่ในสภาพอ่อน)
นอกจากทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว คุณควรกินอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนให้มากขึ้นด้วยนะคะ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น แครอท มะละกอสุก และผักใบเขียวเข้ม เนื่องจากเบต้าแคโรทีนเป็นสารที่ละลายในไขมันได้ จึงเข้าไปละลายอยู่ในไขมันบริเวณผิวหนัง และช่วยกรองรังสีอัลตร้าไวโอเลตจากแสงแดด ซึ่งเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ส่วนคนที่เดินทางจากประเทศร้อนไปยังประเทศที่หนาวมากๆ ปัญหาที่เจอบ่อยคืออาการติดเชื้อทางลมหายใจส่วนบน คืออาการไข้หวัด หรือคนที่เป็นโรคเริมอาจมีอาการกำเริบได้เหมือนกัน นอกจากนี้ควรเตรียมของใช้จำเป็นจำพวกปลาสเตอร์ ผ้าพันแผล ขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ ยาแก้ท้องร่วง ผงเกลือแร่ ยาช่วยย่อย มุ้ง ยากันยุงชนิดขด ยาไล่แมลง และสเปรย์กำจัดแมลง ไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีทิปส์ดีๆ แนะนำคนเดินทางที่มี “โรคประจำตัว” อย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคตับ และโรคภูมิแพ้อากาศอีกด้วย ติดตามหน้าถัดไปค่ะ
Tip การเตรียมตัวก่อนเดินทางของผู้ที่มีโรคประจำตัว
ข้อมูลเรื่อง “เตรียมตัวยังไง เดินทางไกล ไปได้ทั่ว” จากคอลัมน์ เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 179