Welcome to Lifestyle Zone!

8 สุดยอด อาหารเสริม …สวย

อาหารเสริม เพิ่มความสวย

ในอดีต เราคงคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม เพื่อสุขภาพจำพวกวิตามินต่าง ๆ น้ำมันปลา หรือสารสกัดจากธรรมชาติอื่น ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง แต่ในปัจจุบัน อาหารเสริมได้เกิดขึ้นเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาความงามในจุดต่างๆ เช่น ฝ้า กระ ปัญหาสีผิว ริ้วรอย หรือจุดด่างดำ ฯลฯ ด้วยการสังเคราะห์สารเคมี หรือนำสารสกัดจากธรรมชาติที่เชื่อว่ามีผลในทางบวกต่อปัญหานั้น ๆ มาอยู่ในรูปของอาหารเสริม

สารส่วนใหญ่ที่ผสมอยู่ในอาหารเสริมแต่ละชนิด มักจะคล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกัน อาจแตกต่างกันบ้างด้วยกลไกทางการตลาด และ “เทรนด์” ที่เป็นตัวกำหนดว่า สารไหนมาแรง และเป็นที่นิยม วันนี้ เราเลยอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 8 สุดยอด อาหารเสริม ที่ช่วยเพิ่มความสวยไห้สาว ๆ ได้กันดีกว่า

  1. กลูตาไธโอน (Glutathione)

– เป็นสารสกัดที่ได้มาจากปลา เนื้อ แอสพารากัส อะโวคาโด และวอลนัท

– ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำดูจางลง และทำให้ผิวขาวขึ้น

– คุณสมบัติของสาร Detoxification ที่มีอยู่ จะเปลี่ยนสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย และขับถ่ายทิ้ง

– ช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน C และ E ให้ดูดซึมได้ดีขึ้น

– ไม่พบว่ามีผลข้างเคียงใด ๆ ต่อผู้ใช้

– ขนาดที่ควรรับประทานอยู่ที่ 500-1000 มิลลิกรัม ต่อวัน

2. โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

– ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ลดการเกิดริ้วรอย ป้องกันผิวหนังอักเสบจากแสงแดด และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง

– พบมากในอาหารทะเล เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ รำข้าว ผลิตภัณฑ์จากถั่ว น้ำมันถั่วเหลือง บรอคโคลี่ เป็นต้น

– ถูกดูดซึมได้ดีหากรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน

– ปริมาณที่แนะนำคือ 30 มิลลิกรัม ต่อวัน

3. เปลือกสนสกัด (Pine Bark)

– ช่วยทำให้ผิวขาว ใส และลดปฏิกิริยาการเพิ่มเม็ดสีของผิวหนังเมื่อถูกแดด รวมทั้งลดขนาด และความเข้มของฝ้า โดยไม่มีผลข้างเคียงกับผิวบริเวณอื่น

– ไม่มีปฎิกิริยากับยา สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวอื่นๆ

– ปริมาณที่ควรรับประทานนั้นอยู่ที่ 20-25 มิลลิกรัม ต่อวัน

4. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)

– ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และป้องกันผิวจากรังสี UV รวมทั้งลดอาการแพ้จากสภาพแวดล้อม และเครื่องสำอาง

– ควรรับประทานในปริมาณที่ 20-60 มิลลิกรัม ต่อวัน

5. สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract)

– ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอย

– สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ได้ดี

– ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 300-1,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

6. ไลโคพิน (Lycopene)

– พบมากในผัก และผลไม้บางชนิด เช่น แอพรีคอต เกร๊ปฟรุ้ต แตงกวา มะเขือเทศ และแตงโม

– มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความชราสูงกว่าเบตาแคโรทีนถึง 2 เท่า และให้สารอาหารได้มากกว่ากว่าวิตามินอีถึง 1000 เท่า

7. น้ำมันสกัดจากดอกอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil)

– ป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนัง ให้ผิวคงความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง ปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ดูนุ่มขึ้น ลดริ้วรอย และความหมองคล้ำของผิวพรรณ ลดการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังแห้ง รวมถึงอาการผมร่วง มีรังแค และเล็บเปราะได้

– อาจเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น อาการคลื่นไส้ ท้องอืดเฟ้อ ปวดศีรษะ อาการผื่นแพ้ และอาการลมชักกำเริบ ฯลฯ จึงควรรับประทานผลิตภัณฑ์พร้อมๆ กับการรับประทานอาหารเพราะสามารถลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้

8. บริเวอร์ยีสต์ (Brewer Yeast)

– อุดมไปด้วย Biotin หรือวิตามิน B ชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยให้เล็บที่เปราะแข็งแรงขึ้น และช่วยบำรุงสุขภาพผม และยังมีสรรพคุณในเรื่องการรักษาสิวได้ผลดี รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการชะลอความชรา

– ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 200 มิลลิกรัม ต่อวัน

– บริเวอร์มีผลต่อตัวยาอื่น การใช้จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน โรคเก๊าท์ หรือมีระบบภูมิคุ้มกันเสียหายอย่างรุนแรงควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้ บริเวอร์ยีสต์ยังมีผลข้างเคียงกับผู้ที่ร่างกายแพ้ต่อการสัมผัสได้ง่าย คืออาจก่อให้เกิดอาการไมเกรน ปวดหัว บางครั้งอาจมีอาการผื่นคัน อาการบวมน้ำ หรือเป็นหัดได้

– การใช้ครั้งแรก อาจก่อให้เกิดแก๊สในลำไส้ ดังนั้น จึงควรเริ่มใช้แต่น้อยก่อน จากนั้น จึงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่แนะนำ หากมีอาการคลื่นเหียนอาเจียน ควรหยุดใช้ทันที และรีบปรึกษาแพทย์

ก่อนตัดสินใจเลือกใช้อาหารเสริมชนิดไหน ควรรู้ความต้องการของตนเองซะก่อน เพื่อจะได้พิจารณาสารที่เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญ ควรปฏิบัติตามคำเตือนบนฉลากอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะวิธีใช้ เพื่อให้อาหารเสริมมีประสิทธิภาพได้อย่างที่ควรจะเป็น