Welcome to Lifestyle Zone!

หยุดโรคร้ายได้เพราะหมั่นสังเกต มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

หากพูดถึงอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของนักแสดง ส่วนใหญ่มักเกิดจากการพักผ่อนน้อย แต่สำหรับสาวหน้าคมปนหวานอย่าง มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง เธอคนนี้ มีประสบการณ์ปอดรั่ว ที่จะทำให้คุณฉุกคิด แล้วเริ่มสังเกตตัวเอง

ปอดรั่วเพราะอะไร

“ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รู้สึกเจ็บหน้าอก เจ็บจุกๆ เวลาหายใจก็เจ็บ เวลานอนก็ยังเจ็บ ตอนนั้นคิดว่า คงมีลมในกระเพาะอาหาร จึงกินยาลดกรด จากนั้น 2-3 วัน เราเริ่มสังเกตว่า อาการน่าเป็นห่วงแล้ว เพราะยังรู้สึกเจ็บจี๊ด เหมือนเป็นแผลที่หน้าอก จึงตัดสินใจไปหาหมอ

“ผลการตรวจคือ ปอดรั่ว 10 เปอร์เซ็นต์ คุณหมอบอกว่า ไม่มียารักษา สิ่งที่ทำได้คือ นอนเฉยๆ เพื่อให้แผลสมานเอง เราจึงได้แค่กินยาลดปวดและให้ออกซิเจนตลอดเวลา เพื่อช่วยหายใจ เพราะไม่สามารถหายใจเองได้อย่างเต็มปอด และยังต้องงดทำทุกกิจกรรม แม้แต่การร้องเพลง หรือจาม ก็ไม่ควร”

ส่วนสาเหตุของอาการปอดรั่วนั้น คุณมิ้นต์เล่าว่า คุณหมออธิบายว่า คนมีรูปร่างผอมสูง มีความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ ซึ่งคล้ายกับรูปร่างของเธอ นอกจากนี้ ยังเกิดจากการถูกกระแทกหรือชนแรงๆ แต่สำหรับคุณมิ้นต์เธอเล่าว่า เธอไม่เคยมีประวัติเช่นนี้มาก่อน

มิ้นต์-ชาลิดา

คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป

ปอดรั่วเปลี่ยนชีวิต

แม้คุณหมอจะยืนยันว่า อาการปอดรั่ว ไม่มียารักษา แต่สาวน้อยคนนี้ ก็มีวิธีรับมือกับอาการปอดรั่วได้เป็นอย่างดี

“หลังจากรู้ว่า ปอดรั่ว ชีวิตของมิ้นต์เปลี่ยนไปเลย จากคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่าง ดำน้ำ และขี่ม้า ซึ่งเป็นเหมือนลมหายใจของเรา กลับต้องหยุดทุกอย่าง

แต่เมื่อคุณหมอสั่งห้ามทำกิจกรรมที่ผจญภัย หรือใช้แรงมากๆ เศร้าเลยค่ะ และการหากิจกรรมอื่นๆ มาทดแทนก็แทบไม่มีเลย เพราะมิ้นต์สนุกกับการได้ออกแรง ชอบอะไรลุยๆ ถึงร่างกายจะวิ่งได้ แต่ทำได้แค่วิ่งบนสายพาน

ต้องใช้เวลาทำใจนานมาก มิ้นต์คอยเตือนตัวเองเสมอว่า มันคือความเป็นความตาย ถ้าเราไม่หยุดทำกิจกรรมใช้แรง ปอดอาจขาดออกซิเจนกะทันหัน และทำให้เสียชีวิตได้ พอรู้แบบนี้ ก็ตัดใจจากกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่เราต้องรักตัวเอง นอกจากนี้ บทบาทการแสดงที่เคยเล่นบทบู๊ ก็ไม่สามารถทำได้ มีหลายอย่างที่ต้องเปลี่ยนในชีวิตค่ะ”

มิ้นต์-ชาลิดา

คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป

สังเกตกาย…สยบโรคร้าย

ความเจ็บปวดที่เกิดจากภายใน โดยที่ร่างกายภายนอกยังดูปกติ ส่งผลให้หลายๆ คน มักมองข้าม และปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรมเกินกว่าจะเยียวยา คุณมิ้นต์เล่าว่า

“คุณหมอบอกว่า อาการปอดรั่ว แผลมีสิทธิ์จะใหญ่ขึ้นค่ะ หากเราปล่อยไว้ โดยไม่ดูแลตัวเอง ซึ่งอาการนี้ พี่บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เคยเป็นมาก่อน ปอดของพี่บอยเป็นแผลใหญ่ แต่ที่เขายังทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง เพราะพี่บอยเลือกเย็บปอดติดกับผนังร่างกาย ซึ่งเป็นการรักษาที่หายขาด แต่ต้องทำการผ่าตัด และรักษาเยียวยาร่างกายนาน มิ้นต์จึงไม่เลือกวิธีนั้น และหันมาดูแลร่างกายด้วยตนเอง”

ก่อนจากกัน สาวน้อยตากลม ได้ฝากข้อคิดดีๆ ถึงการสังเกตร่างกาย ก่อนสายเกินแก้

มิ้นต์-ชาลิดา

“ยังมีอีกหลายอาการที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หากวันนั้น มิ้นต์คิดแค่ว่า ไม่เป็นไรหรอก นั่งพักเดี๋ยวเดียวก็หาย แล้วออกไปรับงานกระโดดโลดเต้น นั่นคือการละเลยร่างกายในทางที่ผิดมหันต์ ตอนนี้ เริ่มสังเกตร่างกายมากขึ้น เมื่อเป็นอะไรนิดหน่อยจะรีบไปหาหมอ เพราะจำความรู้สึกนั้นได้ดี ขนาดกินข้าวยังกินไม่ลง แค่หายใจก็เจ็บแล้ว และเป็นนานกว่า 2 สัปดห์ เราฝืนกินข้าว ทั้งที่เกิดมา มีความสุขกับการกิน แต่ตอนนั้น ทำอะไรไม่ได้เลย

“สำหรับอาการของวันนี้ ยังมีเจ็บๆ บ้าง อย่างเวลาไปออกกำลังกาย เพราะอาชีพนักแสดง รูปร่างนับเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ถ้ารู้สึกเจ็บจี๊ดที่ปอด ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะหยุดพัก สังเกตร่างกายว่า เขาเป็นอย่างไร เจ็บป่วยส่วนไหน ก็ต้องฟัง หากยังอยากมีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ”

หมั่น สังเกตร่างกายและความผิดปกติของตัวเองไว้ จะช่วยป้องกันไม่ให้โรคร้ายลุกลามบานปลาย เช่นที่นางเอกสาวคนนี้เธอลองมาปฏิบัติมาแล้วค่ะ