Welcome to Lifestyle Zone!
3 โรคเสี่ยง หน้าฝน ที่คุณควรรู้!
โรคหน้าฝน
ระวัง โรคหน้าฝน เนื่องจากหน้าฝน ปีนี้ ฝนตกหนักแรงเป็นพิเศษ เพราะเราต้องเผชิญกับลมมรสุมและพายุลูกต่างๆ ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ฝนตกหนักยังไม่พอ แถมยังตกนานจนเกิดภาวะน้ำท่วมขังทั่วไปอีกด้วย หลายคนทั้งตากฝนและลุยน้ำแทบทุกวัน จึงเสี่ยงต่อการเป็น 3 โรคนี้ …ติดตามให้ครบนะคะ
โรคฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรซิส
โรคฉี่หนูแบบแรก คือโรคฉี่หนูทั่วไปที่รู้จักกัน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ เลปโตสไปรา จากปัสสาวะของสัตว์ติดเชื้อ ผัก ผลไม้ หรือดินเปียกชื้นที่มีเชื้อ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่หลีกเลี่ยงการเดินผ่านที่เปียกชื้นได้ยากโดยมีระยะฟักเชื้อประมาณ 4-20 วัน จากนั้นจะเริ่มแสดงอาการ อาการของโรค แตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อ บางรายติดเชื้อแล้วไม่แสดงอาการ แต่ส่วนใหญ่อาการที่พบบ่อยคือ มีไข้เฉียบพลัน และปวดศีรษะรุนแรง รวมถึงมีอาการหนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ (ส่วนมากบริเวณขา) ตาแดง บางรายมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบร่วมด้วย หรือบางรายมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ ไอมีเสมหะปนเลือด และเจ็บหน้าอก บางรายมีอาการปอดอักเสบ จนบางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิต แต่คนส่วนใหญ่จะเป็นในระดับไม่แสดงอาการ หรือมีอาการอย่างอ่อนเท่านั้นเมื่อป่วยเป็นโรคฉี่หนู ต้องพบแพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาการติดเชื้อด้วยยาปฏิชีวนะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคจึงดีกว่า
การป้องกัน – หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระเปิดในช่วงฤดูฝน – ไม่แช่เท้า หรือเดินลุยน้ำขัง หากจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณนั้นก็ควรสวมรองเท้าบู๊ต และใช้ถุงมือยางเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางฝน – ดูแลความสะอาดบ้านเรือน ให้ไม่เป็นที่อยู่อาศัยของหนู หรือสัตว์แพร่เชื้ออื่นๆ – พาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักระบาดวิทยา
ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดก็คือ หลีกเลี่ยงการลุยน้ำด้วยเท้าเปล่าหน้าฝน ไม่ว่ากรณีใดๆ หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ กลับมาต้องรีบอาบน้ำล้างตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ควรใจเย็น
นอกจากนี้ยังควรทำบ้านไม่ให้ “รก” จนกลายเป็นบรรยากาศเหมาะให้น้องหนูต่างๆ ตัดสินใจเลือกบ้านคุณเป็นที่อยู่ แพร่ลูกหลาน (และเเพร่เชื้อโรคด้วย) นั่นเอง
หน้าถัดไป มารู้จักกับ ‘โรคหวัด’ โรคร้ายใกล้ตัว กับวิธีการป้องกัน-รักษาหวัดอย่างคนรู้จริงค่ะ
ไข้หวัด…ป้องกันได้ง่ายแต่ไฉนเป็นบ่อย
เหตุผลที่เราเป็นหวัดกันได้หลายครั้ง นายแพทย์กำธรบอกว่าที่จริงเมื่อเราเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่จากไวรัสตัวใดแล้ว เราจะมีภูมิต้านทานต่อไวรัสตัวนั้น ทำให้เราไม่เป็นหวัดเมื่อติดเชื้อไวรัสตัวเดิม
แต่ด้วยความที่ไวรัสหวัดนั้นมีหลากหลายตัวเหลือเกิน จึงทำให้เราเป็นโรคหวัดโดยเปลี่ยนเชื้อตัวใหม่ไปเรื่อยๆ แถมเชื้อยังเป็นพวกมีการพัฒนาคือกลายพันธุ์อีกด้วย ทำให้การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีประโยชน์ในผู้สูงอายุ เพราะเมื่อเป็นหวัดและมีโอกาสที่จะลุกลามกายเป็นโรคปอดบวม และผู้ที่เป็นโรคปอดอยู่ก่อน ซึ่งเมื่อเป็นโรคไข้หวัดใหญ่จะทำให้โรคปอดกำเริบ จำเป็นที่จะต้องฉีดใหม่ทุกปีตามเชื้อที่เปลี่ยนไป
วิธีป้องกันหวัด
สังเกตว่าในบ้านเราเมื่อเด็กสักคนเป็นหวัด ทำไปทำมาผู้ใหญ่ก็จะพลอยติดหวัดไปด้วยและวนเวียนติดหวัดกันไปทั้งบ้าน แสดงว่าการป้องกันในบ้านเราไม่ดีเลย ทั้งที่การป้องกันไข้หวัดแพร่กระจายง่ายมากค่ะ
ล้างมืออย่างไรให้ปลอดโรค
สิ่งที่สำคัญและง่ายที่สุดในการป้องกันโรคจนเรามองข้ามไปเหมือนเส้นผมบังภูเขา ก็คือการล้างมือนี่แหละค่ะ เพราะหากล้างมืออย่างถูกวิธีแล้วไม่เพียงจะป้องกันแต่โรคหวัดค่ะ โรคทางเดินหายใจและโรคทางอาหารก็จะไม่มากล้ำกรายเราด้วย แต่ที่สำคัญคือล้างอย่างไม่รีบเร่งและทั่วถึงดังนี้ค่ะ
- ฝ่ามือถูกัน
- ฝ่ามือถูหลังมือ
- ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว
- หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ
- ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
- ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ
- ถูรอบข้อมือ
ที่สำคัญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อย้ำว่าที่สำคัญควรล้างด้วยสบู่ สบู่ธรรมดานี่ล่ะค่ะ เพราะมือของเรามีไขมันซึ่งทำให้เชื้อโรคติดอยู่ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อนะคะ และล้างโดยเปิดน้ำให้ไหลผ่าน เพราะถ้าล้างโดยการแช่มือในอ่างเชื้อก็จะอยู่ในอ่างและติดกลับมาที่มือเราอีกค่ะ จากนั้นเช็ดมือให้แห้งก็เป็นอันสะอาดเรียบร้อย