Welcome to Lifestyle Zone!
วิ่งบอกลา ภูมิแพ้ ฉบับมิสเตอร์แพรว
วิ่งสยบ ภูมิแพ้
ภูมิแพ้ … ณ พ.ศ.นี้ การวิ่งกลายเป็นการออกกำลังกายฮิตของคนทุกเพศวัย คุณปารัณ เจียมจิตต์ตรง หรือ มิสเตอร์แพรว วัย 32 ปี นักสัมภาษณ์มือหนึ่งของ นิตยสารแพรว คือผู้หนึ่งที่หลงใหลการวิ่งจนถอนตัวไม่ขึ้น เพราะกีฬาชนิดนี้ได้เปลี่ยนชีวิตและสุขภาพของเขาไปจริงๆ
ปักษ์นี้ เขาจะมาถ่ายทอดประสบการณ์การวิ่งที่เปลี่ยนวิธีคิด การใช้ชีวิตและการดูแลสุขภาพไปอย่างสิ้นเชิง
ชายหนุ่ม เล่าถึง การเล่นกีฬาที่เคยเล่นทุกวันในวัยเรียน ซึ่งเจ้าตัวเปรียบเทียบว่า เป็น ‘รักเก่า’ ที่หล่นหายไปนับสิบๆ ปี จากเคยเรียกตัวเองว่า “คนบ้าบอล” เพราะชื่นชอบการเตะฟุตบอลมากๆ ในสมัยมัธยม แต่ก็ห่างหายจากกันไปนาน โดยเฉพาะเมื่อเขาเข้าสู่วัยทำงาน และหันมาทุ่มเทให้กับภาระหน้าที่ด้านนี้อย่างเต็มที่
“ผมรู้ดีว่า แม้ตารางการทำงานของเราไม่แน่นอน …หยุดออกกำลังกายไปไม่นานนัก โรคภูมิแพ้ก็เริ่มถามหา และมีอาการเรื้อรังจนเพื่อนร่วมงานรู้ดี หลายครั้งเพื่อนๆ พี่ๆ เตือนให้ผมกลับไปพักผ่อน แต่เราก็ยังฝืนนั่งทำงานต่อจนเสร็จ พอหมดวัน ถังขยะข้างโต๊ะทำงานของผมมีทิชชู่เป็นกองเพราะต้องเช็ดน้ำมูกตลอดเวลาครับ”
แม้จะได้ยินคำเตือนจากคนใกล้ตัว แต่คุณปารัณก็ยังฝืนร่างกายต่อไป จนเมื่อร่างกายไปต่อไม่ไหว จึงต้องกลายเป็นแชมป์ภูมิแพ้ตลอดปี 3 วันหายดี 4 วันก็เริ่มกลับมาเยือนอีกแล้ว จนเขาเริ่มมองเห็นว่า อยู่เช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว…
แต่จากคนนั่งติดโต๊ะทำงาน เขาจะเปลี่ยนตัวเองด้วยวิธีไหน มีอะไรเป็นแรงฮึดให้ลุกขึ้นสู้
อ่านต่อ หน้าถัดไป ค่ะ
ในปี พ.ศ.2554 ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณปารัณเล่าว่า เขานั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เช้าจนเย็น ขณะที่พักสายตาก็เหลือบไปเห็นรองเท้ากีฬาของตนวางอยู่ที่มุมห้อง
“ตั้งแต่เริ่มทำงาน ผมไม่ได้มีกิจกรรมหรืองานอดิเรกอะไรเป็นพิเศษ ตื่นเช้ามาก็นั่งทำงานแล้วก็กลับบ้านพักผ่อน ทุกวันเป็นอย่างนี้ ไม่ต่างจากรองเท้าคู่นั้นที่วางอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็มีแรงฮึดและบอกตัวเองทันทีว่า ‘ไปๆ ออกไปวิ่งดีกว่า โชคดีว่าที่พักอยู่ใกล้สวนสาธารณะเชิงสะพานพระราม 8 ผมเลยตรงดิ่งลงไปวิ่งทันทีครับ โอ้โห โลกเปลี่ยนเลยครับ (หัวเราะ) ได้เห็นวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา อากาศเย็นสบาย มีผู้คนมาออกกำลังกายมากมาย”
เมื่อได้ออกไปวิ่งทำให้เขามองเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรจะปรับสมดุลการใช้ชีวิตเสียใหม่ จากนั้นจึงออกกำลังกายด้วยการวิ่งมาโดยตลอด เน้นวิ่งเมื่อว่าง ไม่เกี่ยงเวลา จนต่อมาเริ่มหันมาร่วมรายการวิ่งมินิมาราธอน และฮาล์ฟมาราธอน ในเวลาต่อมา
…และเริ่มสังเกตได้ว่า ร่างกายเปลี่ยนแปลงไป อาการโรคภูมิแพ้ที่รุมเร้าอยู่เป็นระยะก็ค่อยๆ ลดลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ 3 เดือนแรก จนเมื่อวิ่งครบปี ร่างกายก็มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงการบาดเจ็บระหว่างการดำเนินชีวิต
ที่สำคัญ ทำให้เขาได้มิตรภาพดีๆ กลับมามากมาย …อ่านต่อ หน้าถัดไป ค่ะ
“กลางปี พ.ศ.2554 ผมเริ่มลงแข่งในรายการมินิมาราธอน ส่วนใหญ่ช่วงนั้นก็วิ่งคนเดียวมาตลอด แต่ด้วยเหตุที่เราอยากจะวิ่งให้ดีขึ้น จึงเริ่มไปหาข้อมูลและออกซ้อมวิ่ง จึงได้พบนักวิ่งคนเก่งๆ มากมาย หนึ่งในนั้น คือ คุณทนงศักดิ์ ศุภการ หรือ พี่นง ซึ่งเป็นไอดอลคนสำคัญท่านหนึ่งของผม”
ชายหนุ่มเล่าว่า ในการทำงานครั้งหนึ่งที่ประเทศสเปน เขาได้พบกับคุณทนงศักดิ์ซึ่งมาทำงานในฐานะช่างภาพ เมื่อได้พูดคุยกันตามประสาคนรักการวิ่ง คุณปารัณจึงขอคำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการวิ่งซึ่งคุณทนงศักดิ์ก็ตอบรับด้วยความยินดีและช่วยปรับท่าทางการวิ่งให้ถูกต้อง พร้อมทั้งให้ยืมรองเท้าวิ่งอีกด้วย
“ผมประทับใจสังคมของนักวิ่งมาก เพราะทุกคนยินดีช่วยเหลือและให้คำแนะนำกันเต็มที่ นอกจากพี่นงแล้ว เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ผมเพิ่งทราบว่ามีศิษย์เก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ตั้งกลุ่มวิ่งด้วย ชื่อว่า เทพศิรินทร์รันนิ่ง ครับ ในกลุ่มมีคนหลากหลายวัยครับ บางคนอายุ 50 ปีแล้ว บางคนก็ยังเรียนมัธยมอยู่เลย แต่มีหัวใจเดียวกัน คือ รักการวิ่ง มีไลน์กลุ่มเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนข่าวสาร เปรียบเสมือนห้องสมุดเล็กๆ ที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง”
การวิ่งทำให้ชายหนุ่มได้รับทั้งสุขภาพที่แข็งแรงและมิตรภาพจากบรรดานักวิ่ง ที่สำคัญยังให้เขาได้รับแนวคิดใหม่ๆ โดย คุณปารัณทิ้งท้ายไว้ว่า
“การวิ่งให้ประโยชน์กับผมมาก แม้ภูมิแพ้ยังไม่หายขาด แต่อาการก็ลดลงมาก ผมรู้สึกสดชื่นขึ้น ทำงานได้ต่อเนื่อง และการวิ่งยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผมกับแฟนได้ใช้เวลาด้วยกัน เช่น วันหยุดเราก็ออกไปซ้อมวิ่งด้วยกัน
“จากแต่ก่อน เราคิดว่าจะทุ่มเวลาให้งานอย่างเดียว ตอนนี้ผมจัดสรรเวลาได้ดีขึ้น ได้ทำทั้งงาน ได้ออกกำลังกาย และใช้เวลากับคนที่รัก ดังนั้นจึงยังหาจุดที่จะเลิกวิ่งไม่เจอนะครับ และถ้าเราวิ่งไปเรื่อยๆ ร่างกายก็น่าจะแข็งแรงขึ้นและป่วยน้อยลงเช่นกัน”
ชายหนุ่มชี้ให้เราเห็นว่า การจัดสมดุลชีวิตและหันมาแบ่งเวลาเพื่อดูแลสุขภาพนั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ ขอเพียงแค่ลองก้าวออกจากสิ่งคุ้นเคยเดิมๆ คุณก็จะมีโอกาสพบมุมมองใหม่ทันที
เรื่อง “วิ่งบอกลาภูมิแพ้ ฉบับมิสเตอร์แพรว” ตีพิมพ์ในนิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 419