Welcome to Lifestyle Zone!
โยคะบำบัด แก้อาการ ออฟฟิศซินโดรม (1)
หนุ่มสาวออฟฟิศที่โหมกรำงานมากไป อาจมีอาการปวดหลังไหล่ หรือเมื่อยแขนขา เพราะใช้ร่างกายผิดท่าเมื่ออยู่ในที่ทำงาน หรือที่เรียกกันว่า ออฟฟิศซินโดรม อยู่เสมอๆ วันนี้ คุณกาญจนา พันธรักษ์ หรือครูกาญจน์คนเก่ง จะแนะนำท่าโยคะเพื่อแก้อาการเหล่านี้ค่ะ
โยคะเป็นศาสตร์เก่าแก่ที่ถือกำเนินในประเทศอินเดีย เมื่อหลายพันปีมาแล้ว และนิยมแพร่หลายในเมืองไทย ไม่กี่ปีมานี้คนไทยนิยมออกกำลังกายด้วยโยคะมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะโยคะสามารถบำบัดรักษาอาการของโรคต่างๆได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยปกติแล้วท่าโยคะจะมีการงดเว้นสำหรับบางคนในบางท่า
แต่ท่าที่จะแนะนำในวันนี้ ทุกคนสามารถทำได้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์วันละ 6 – 8 ชั่วโมง ส่งผลให้มีอาการปวดหลัง ต้นคอ หัวไหล่ ขาและแขนชา ตามมา รวมถึงคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เมื่อครรภ์ใหญ่ขึ้นน้ำหนักจะถ่วงไปที่หน้าท้อง ทำให้ปวดหลังมากขึ้น และเด็กในครรภ์อาจไปกดทับ ทำให้การหมุนเวียนเลือดไม่สะดวก หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังเช่น กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคดก็ยังสามารถทำได้
อาสนะที่ว่านี้มีชื่อว่า ท่าแมว (Cat pose) และ ท่าวัว (Cow pose) ค่ะ
ซึ่งประโยชน์เพิ่มเติมมีดังนี้
- ช่วยคลายอาการปวดหลัง อันเนื่องมาจาก การนั่ง ยืน เดิน หรือนอนนานๆ
- ช่วยยืดเหยียดกระดูกสันหลัง และรักษาความยืดหยุ่นของร่างกาย
- ช่วยไล่ความเกลียดคร้านในตัวผู้ฝึก
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในช่องท้อง
- แอ่นหลังส่วนล่าง กดหน้าท้องลงให้ใกล้พื้นมากที่สุด
- ยกกระดูกสะโพกขึ้น (แอ่นสะโพก)
- หมุนหัวไหล่ หมุนหัวไหล่ทั้งสองข้างเปิดออก(เพื่อเปิดอก)
- ยืดคอ เงยหน้าขึ้น มองตรงไปด้านบน
- โก่งหลังขึ้น ให้รู้สึกว่ากำลังยืดกระดูกสันหลัง หลังส่วนกลางโก่งขึ้นไปใกล้กับเพดานด้านบนให้มากที่สุด
- ดึงหน้าท้องขึ้นไปให้ติดกับกระดูกสันหลังให้มากที่สุด
- แยกสะบักหลังทั้งสองข้างออกจากกัน กดคางชิดอก เหมือนนำหัวไหล่มาชิดใบหูเพื่อยืดสะบักหลัง
- ม้วนกระดูกก้นกบ (เหมือนสุนัขที่กำลังกลัว แล้วม้วนหางเก็บเข้ามาหาท้อง)
เทคนิคเมื่อทำความเข้าใจในแต่ละข้อแล้ว ในระหว่างที่ฝึกให้ตั้งสติเราอยู่กับสิ่งที่เราเคลื่อนไหว อาจท่องจำสั้นๆ ว่า
หายใจเข้า 1. โก่งหลัง 2. ม้วนก้น 3. ห่อหัวไหล่ 4. กดคางชิดอก
หายใจออก 1. แอ่นหลัง 2. ยกก้น 3. เปิดหัวไหล่ 4. เงยหน้า
โดยให้นับจังหวะตามวินาที จะให้ความรู้สึกว่าเรากำลังคุยกับร่างกายตัวเอง และกำลังเคลื่อนไหวกายและจิตไปพร้อมกัน เมื่อรวมทั้ง 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน คุณจะรู้สึกผ่อนคลายและฟังเสียงร่างกายตนเองมากขึ้น จะทำซ้ำเป็นเซต ๆ ละ 5 ครั้ง 2-3 เซต (สำหรับผู้ฝึกเบื้องต้น เพราะอาจจะยังสับสนในระหว่างทำอาสนะ) หรือทำเซตเดียว 10 ครั้ง ก็ได้
จากนั้นเราจะพักในท่าเด็ก คือลดสะโพกลงมาหาส้นเท้า หมอบลง เหยียดแขนอย่างสบายๆยืดกระดูกสันหลัง เพื่อคืนกลับมาสู่สภาวะปกติ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต