Welcome to Lifestyle Zone!

เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยชะลอวัย ด้วยอาหารวิตามินอีสูง

เพิ่มภูมิคุ้มกัน กินช่วยชะลอวัย

เพิ่มภูมิคุ้นกัน ชะลอวัย ต้องทำอย่างไร…น้อ

อาหารจากธรรมชาติหลายชนิดอุดมไปด้วยวิตามินอี เช่น น้ำมันจมูกข้าวสาลี ที่เพียง 1 ช้อนโต๊ะก็มีวิตามินอีสูงถึง 20 มิลลิกรัม มากกว่าปริมาณที่แนะนำให้ผู้ใหญ่กินต่อวันถึง1.3 เท่า

นอกจากนี้ยังพบว่า มีอาหารอีกหลายชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามินอี หากกินอาหารเหล่านี้เป็นประจำรับรองว่าไม่ต้องกินอาหารเสริมก็สามารถต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยได้ง่าย ๆ

ชีวจิตจะมาแนะนำอาหารวิตามินอีสูงที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงพร้อมแนะนำปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย และข้อควรรู้ก่อนเสริมวิตามินอี

วิตามินอี สารแอนติออกซิแดนต์ตัวแม่

อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของความชราและโรคจากความเสื่อม ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากกระบวนการเผาผลาญอาหารเป็นพลังงาน ในร่างกาย นอกจากนี้ควันบุหรี่ มลพิษในอากาศ และรังสี อัลตราไวโอเลต (ultraviolet) จากแสงแดด ล้วนก่อให้เกิด อนุมูลอิสระในร่างกายทั้งสิ้น

สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลว่า วิตามินอีคือวิตามินที่ละลาย ในไขมัน พบในอาหารหลายชนิด วิตามินอีทำหน้าที่ช่วยปกป้อง เซลล์จากการถูกอนุมูลอิสระทำลาย

นอกจากนี้ร่างกายยังต้องการวิตามินอีเพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยปกป้องร่างกายจากแบคทีเรียและเชื้อไวรัสก่อโรคต่าง ๆ ทั้งนี้ วิตามินอียังมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ป้องกัน หลอดเลือดแข็งตัว และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

กินเท่าไร อย่างไร

ข้อมูลปริมาณสารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย

แนะนำให้คนไทยแต่ละช่วงวัยได้รับวิตามินอีจากอาหารดังนี้

อายุ                              ปริมาณวิตามินที่แนะนำต่อวัน (มิลลิกรัม)

6 – 11 เดือน                                5

1 – 3 ปี                                      6

4 – 8 ปี                                      7

9 – 12 ปี                                     11

13 ปีขึ้นไป                                   15

สำหรับผู้หญิงที่ให้นมบุตรควรได้รับวิตามินอีเพิ่มขึ้นจากเดิม วันละ 4 มิลลิกรัม

น้ำมัน, เพิ่มภูมิคุ้มกัน
วิตามินอีสามารถพบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในน้ำมันพืชและถั่วเมล็ด แห้ง จึงพบว่าน้อยคนที่จะขาดวิตามินอี ยกเว้นผู้ที่มีความผิดปกติ ของระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือผู้ที่ ได้รับการผ่าตัดในระบบทางเดินอาหารจนมีผลให้ร่างกายไม่สามารถ ดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันได้ โดยอาจได้รับคำแนะนำหรือ ปรึกษาแพทย์เพื่อเสริมวิตามินอีเพิ่มเติมจากอาหารประจำวัน

สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินอีเพื่อสุขภาพ ดร.แอนดรูว์ ไวล์ (dr. Andrew Weil) พ่อมดแห่งวงการแพทย์ทางเลือก แนะนำ ให้เสริมวิตามินอีวันละ 80 มิลลิกรัม และเลือกวิตามินอีที่สกัด จากธรรมชาติ โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติแนะนำว่า วิตามินจาก ธรรมชาติจะมีประสิทธิภาพดีกว่าวิตามินอีสังเคราะห์ โดยวิตามินอี ที่สกัดจากธรรมชาติจะพบในชื่อดี – แอลฟาโทโคฟีรอล “d-alpha-tocopherol” บนผลิตภัณฑ์ ส่วนวิตามินอีสังเคราะห์จะพบในชื่อ ดีแอล – แอลฟาโทโคฟีรอล “dl-alpha-tocopherol”

อ่านต่อหน้าที่ 2

แหล่งอาหารอุดมวิตามินอี

กระทรวงเกษตร ประเทศสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture)

แนะนำแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินอี ดังนี้

น้ำมัน                                       ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (มิลลิกรัม)

น้ำมันจมูกข้าวสาลี                           20

น้ำมันดอกทานตะวัน                        6

น้ำมันดอกคำฝอย                            5

น้ำมันข้าวโพด                               2

น้ำมันคาโนลา                                2

น้ำมันมะกอก                                 2

น้ำมันถั่วลิสง                                 2

ถั่วและธัญพืช                           ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (มิลลิกรัม)

เมล็ดทานตะวัน                                        2

เฮเซลนัท (Hazelnut) (10 เม็ด)                 2

เมล็ดอัลมอนด์ (Almond)                           2

ถั่วลิสง                                                   1

ข้าวสาลี                                                  1

ถั่ว, เพิ่มภูมิคุ้มกัน

ปลา                                         ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (มิลลิกรัม)

แซลมอน                                      1

ปลาทูน่า                                      1

กินให้เป็น ปลอดภัย ได้สุขภาพ

หนังสือ วิตามินไบเบิล โดย ดร.เอิร์ลมินเดลล์ สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ แนะนำข้อควรระวังและการกินวิตามินอีอย่างถูกต้องไว้ว่า

  • หากคุณกินอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสูง คุณอาจต้องเสริมวิตามินอี
  • วิตามินอีปริมาณสูง มีฤทธิ์เสริมการทำงานของยาต้านการแข็งตัวของเลือดและลดการดูดซึมของวิตามินเค ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวดังนั้นหากคุณกำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ผมแนะนำให้หยุดกินวิตามินอี 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัด นอกเสียจากว่าแพทย์ประจำตัวแนะนำให้กิน
  • ร่างกายของเราจะดูดซึมวิตามินอีจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติได้มากเป็น 2 เท่าของแบบสังเคราะห์ โดยดูที่ข้างขวดจะพบว่า วิตามินอีจากธรรมชาติจะระบุว่าเป็นดี – แอลฟาโทโคฟีรอล (d-alpha-tocopherol)ในขณะที่แบบสังเคราะห์จะระบุว่า ดีแอล – แอลฟาโทโคฟีรอล (dl-alpha-tococpherol)
  • การกินโทโคไทรอีนอลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกินร่วมกับอาหารที่มีน้ำมันหรือไขมันประกอบอยู่ด้วย
  • ธาตุเหล็กอนินทรีย์ (เฟอร์รัสซัลเฟต) ทำลายวิตามินอีได้ คุณจึงไม่ควรกินร่วมกัน หากคุณกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีเฟอร์รัสซัลเฟต คุณควรกินวิตามินอี 8 ชั่วโมงก่อนหรือหลังกินเฟอร์รัส-ซัลเฟต
  • หากคุณดื่มน้ำที่มีคลอรีน ร่างกายคุณจะต้องการวิตามินอีเพิ่มมากกว่าปกติ
  • แนะนำให้ผู้หญิงที่ย่างเข้าสู่วัยทองเพิ่มการกินวิตามินอี (หากอายุน้อยกว่า 40 ปี ขนาดวันละ400 ไอยูถือว่าเหมาะสม แต่หากอายุมากกว่า 40 ปีแนะนำให้กินวันละ 800 ไอยูต่อวัน)
  • ส่วนคณะกรรมการอาหารและโภชนาการ สถาบันการแพทย์ (The Foodand Nutrition Board of the Institute of Medicine) กำหนดปริมาณวิตามินอีสูงสุดที่รับได้ (Tolerable Upper Intake Level) คือ วันละไม่เกิน1,000 มิลลิกรัม (1,500 ไอยู)

    วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน หากได้รับในปริมาณมากเกินไปอาจสะสมในร่างกายและก่อให้เกิดผลเสียได้ เช่น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกง่าย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า การเสริมวิตามินอีในปริมาณสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย

    นอกจากนี้ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวทุกครั้งที่เสริมวิตามินอี เพราะอาจส่งผลต่อยาที่กิน โดยเฉพาะผู้ที่กินยากลุ่มที่ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกเช่น วาร์ฟาริน (warfarin) แอสไพริน (aspirin) โคลพิโดเกรล (clopidogrel)เพราะวิตามินอีมีผลเพิ่มความเสี่ยงภาวะเลือดออกง่าย

    แค่ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารประจำวันเพียงเล็กน้อย ก็รับรองว่าได้อาหารวิตามินอีสูงแบบไม่ต้องง้ออาหารเสริมแล้วค่ะ

    จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 454 (1 กันยายน 2560)

    บทความน่าสนใจอื่นๆ

    7 วิตามินช่วยนอนหลับ หลับสนิทตลอดคืน

    รวมฮิตติดชาร์ต ผักผลไม้วิตามินซีสูง

    เช็กร่างกาย อาการแบบนี้ต้อง กินวิตามิน อะไรบ้าง