Welcome to Lifestyle Zone!

น้ำผักผลไม้ ต้านมะเร็ง ทำวิธีไหนปังสุด

น้ำผักผลไม้ ต้านมะเร็ง

น้ำผักผลไม้ มีหลากหลายสูตรและวิธีทำ จนเลือกไม่ถูกว่าแบบไหนดีกว่ากัน และควรทำอย่างไร ให้ได้รับคุณประโยชน์ครบถ้วยที่สุด มาดูกันเลยค่ะ

บางคนบอกให้ดื่มน้ำผักและผลไม้ปั่นรวมทั้งกากใย บ้างก็ให้ดื่มน้ำผลไม้คั้นแยกกากบ้างว่าน้ำเอนไซม์ดีที่สุด และมีไม่น้อยที่เทใจให้น้ำผลไม้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะยืนยันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่แพ้เครื่องดื่มชนิดใด

ผักและผลไม้จากธรรมชาติล้วนมีคุณประโยชน์ แต่เมื่อผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างจึงมีสรรพคุณในการป้องกันและรักษาโรคที่แตกต่างกัน ฉะนั้นควรทำความรู้จักน้ำผักผลไม้ชนิดต่างๆ ให้ถ้วนถี่ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ

อ่านต่อหน้าที่ 2

น้ำผักและผลไม้ปั่น เพื่อสุขภาพ ต้านมะเร็ง

น้ำผักและผลไม้ปั่น ในที่นี้หมายถึง น้ำปั่นเพื่อสุขภาพ ที่ใช้ผักและผลไม้สดปั่นผสมรวมกันดื่มพร้อมกากใยปราศจากน้ำแข็ง น้ำเชื่อม และน้ำหวานปรุงแต่งรส

ดร.ทอม อู๋ (Dr.Tom Wu) ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นผู้หนึ่งที่หันมาดื่มน้ำผักและผลไม้ปั่นละเอียดวันละ 4 - 6 แก้ว ร่วมกับกินอาหารอินทรีย์และกินผักผลไม้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อเยียวยาตนเองจากโรคมะเร็งปอดระยะที่ 3 และผลจากการกินอาหารที่มีเส้นใยสูงทุกวันติดต่อกันนาน 9 เดือนช่วยให้ ดร.ทอมหายขาดจากโรคมะเร็ง

เพราะผักและผลไม้อุดมด้วยสารต้านมะเร็ง แถมใยอาหารยังมีคุณสมบัติช่วยดักจับและเจือจางสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย รวมถึงสกัดกั้นสารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ทั้งช่วยเพิ่มน้ำหนักอุจจาระ มีผลกระตุ้นให้ร่างกายขับถ่ายเร็วขึ้น ช่วยขับสารพิษและป้องกันเซลล์มะเร็งเจริญเติบโต

น้ำผักผลไม้ น้ำปั่น

มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นถึงผลดีของใยอาหารต่อการต้านโรคมะเร็ง เช่น รายงานจากวารสาร Clinical Nutrition Supplements แสดงให้เห็นว่า การกินใยอาหารเพียงวันละ 13 กรัม สามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งในชาวอเมริกันได้ถึงร้อยละ 31 และหากกินติดต่อกันนาน 3 – 4 ปี พบว่าสามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายในผู้ป่วยที่มีก้อนเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ได้

สำหรับวิธีปั่นน้ำผักและผลไม้ ดร.ทอมให้ข้อมูลไว้ในหนังสือ ธรรมชาติช่วยชีวิต ว่า ควรเลือกผักและผลไม้ที่สด สะอาด ปลอดภัย ปราศจากสารเคมีปนเปื้อน เช่น ผักและผลไม้อินทรีย์ จากนั้นล้างผิวเปลือกให้สะอาดและหากเป็นไปได้ควรปั่นทั้งเปลือกและเมล็ด

พร้อมแนะนำให้เลือกเครื่องปั่นที่ทนความร้อนสูงโดยเรียกว่าเครื่องปั่นขนาด 3.5 แรงม้า มีความเร็วในการปั่นเท่ากับ 45,000 รอบ/นาที เหตุที่ต้องเลือกเครื่องปั่นที่มีความเร็วรอบสูง เพราะต้องการบดปั่นเส้นใยของพืชจนละเอียด เพื่อให้ปล่อยอินทรียสารออกมาเต็มที่ ช่วยให้เซลล์ดูดซึมได้ทันที โดยเฉพาะอินทรียสารจากพืชซึ่งพบมากในราก หน่อ และเมล็ด แต่คนส่วนใหญ่ตัดทิ้ง เพราะแข็งและเคี้ยวยาก

ดร.ทอมเสริมว่า น้ำผักและผลไม้ปั่นสามารถปั่นผสมผักผลไม้รวมกันได้หลากหลาย ให้ทั้งประโยชน์จากใยอาหารและอินทรียสารจากพืช ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านต่อหน้าที่ 3

น้ำคั้นผลไม้วิตามินเข้มข้นรักษาโรคตรงจุด

น้ำคั้นผลไม้ มีรสชาติหอมหวานจากผลไม้สด กรองกากใยเหลือแต่น้ำจึงช่วยให้ดื่มง่าย ทั้งน้ำตาล วิตามิน และแร่ธาตุ ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว หลังดื่มจึงทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

นอกจากนี้ น้ำคั้นจากผลไม้สด ยังผ่านกระบวนการน้อย หากดื่มทันทีหลังคั้น วิตามินยังไม่สูญสลาย ร่างกายจึงได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ เช่น วิตามินซีสลายตัวง่ายเพียงปรุงผ่านความร้อน หรือปอกผลไม้ตั้งทิ้งไว้ให้ถูกอากาศและแสงแดด

ฉะนั้นหากต้องการเสริมวิตามินซีเข้มข้นจากธรรมชาติ นอกจากกินผลไม้สดอย่างเพียงพอ ควรเลือกดื่มน้ำคั้นจากผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง ร่วมด้วย

น้ำคั่น น้ำผักผลไม้

เนื่องจากต้องใช้ผลไม้นับสิบผลเพื่อให้ได้น้ำคั้นผลไม้ 1 แก้ว ปริมาณวิตามินเข้มข้นในน้ำคั้นผลไม้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการขาดวิตามิน หรือผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินจากธรรมชาติเพื่อรักษาและป้องกันโรค

ผู้ที่ขาดวิตามินซีมักมีพฤติกรรมกินผักและผลไม้สดน้อย ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่จัด เป็นโรคลำไส้อักเสบ หรือกินยาปฏิชีวนะเป็นประจำ ร่างกายจะแสดงอาการของโรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) คือมีเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม แต่อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติในเวลาไม่นานหลังได้รับวิตามินอย่างเพียงพอ

หลายการศึกษาแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของวิตามินต่อสุขภาพทั้งสนับสนุนให้ดื่มน้ำผลไม้คั้นเพื่อสุขภาพ เช่น รายงานจากวารสาร The American Journal of Clinical Nutrition พบว่า น้ำส้มคั้น

ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง (Hypercholesterolemia)

ตามรายงานระบุว่า ดื่มน้ำส้มคั้นวันละ 3 แก้ว (แก้วละ 250 มิลลิลิตร) ช่วยเพิ่มระดับเอชดีแอลคอเลสเตอรอล (HDL Cholesterol) ร้อยละ 21 ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลดี ทำหน้าที่ลำเลียงคอเลสเตอรอลร้ายไปกำจัดที่ตับ หากดื่มเป็นประจำยังช่วยให้อัตราส่วนระหว่างคอเลสเตอรอลดีและร้ายในร่างกายลดลง (LDL-HDL Cholesterol Ratio) ถึงร้อยละ 16

อาการผิดปกติและโรคภัยต่าง ๆ อาจมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินเพียงรู้ว่าร่างกายขาดวิตามินชนิดใด และรีบเสริมวิตามินโดยดื่มน้ำผลไม้คั้นหรือกินผลไม้สดที่มีวิตามินชนิดนั้น ๆ สูงอย่างต่อเนื่องสามารถช่วยบรรเทาและรักษาอาการผิดปกติต่าง ๆ ได้โดยใช้เวลาเพียงไม่นานและไม่ต้องพึ่งยา

อ่านต่อหน้าที่ 4

น้ำเอนไซม์เพิ่มภูมิคุ้มกันเสริมพลังอวัยวะภายใน

น้ำผักผลไม้ น้ำเอนไซม์

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหงกูรูต้นตำรับชีวจิต กล่าวถึงคุณสมบัติพิเศษของ น้ำเอนไซม์ ว่า สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยหลายขั้นตอน จึงให้ประโยชน์ทางยาได้อย่างรวดเร็ว โดยเอนไซม์มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชีวิต มีหน้าที่กระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ ในสิ่งมีชีวิตทำงานเป็นปกติและป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ชีวิตนั้น

เนื่องจากเอนไซม์ในผักและผลไม้ถูกทำลายและสูญสลายได้ง่ายยิ่งกว่าวิตามินเพียงได้รับความร้อน กระแสไฟฟ้า หรือแม่เหล็ก การผลิตน้ำเอนไซม์จึงต้องเพิ่มความพิถีพิถัน โดยไม่ควรผ่านการต้มหรือใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าควรใช้วิธีสับ คั้น หรือตำ แล้วแยกน้ำออกจากกากด้วยผ้าขาวบาง

นอกจากนี้ควรปรุงน้ำเอนไซม์โดยใช้ผักหรือผลไม้คราวละ 1 ชนิด เพราะเอนไซม์แต่ละชนิดอาจถูกเอนไซม์ตัวอื่นกดหรือทำลายได้ และที่สำคัญควรดื่มนํ้าเอนไซม์ทันที ไม่ควรตั้งทิ้งไว้นานเกินครึ่งชั่วโมง เพราะเอนไซม์จะสลายตัวจนสูญเสียสรรพคุณทางยา

เพราะผักและผลไม้แต่ละชนิดมีเอนไซม์ที่มีประโยชน์แตกต่างกัน จึงควรเลือกดื่มให้ตรงกับสรรพคุณที่ต้องการ โดยอาจารย์สาทิสแนะนำผักและผลไม้ซึ่งมีเอนไซม์ที่มีสรรพคุณทางยาแตกต่างกัน ดังนี้

น้ำคั้นจากแครอต (ครึ่งแก้ว) : ล้างไขมันและช่วยการทำงานของตับ

น้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายหรือเซเลอรี่ (ครึ่งแก้ว) : ช่วยให้เลือดสะอาดขึ้น และเร่งการเผาผลาญคอเลสเตอรอล

น้ำคั้นจากมะระ (ครึ่งแก้ว) : ฟอกเลือดและช่วยการทำงานของไต

น้ำคั้นจากกระเทียม (ดื่มครั้งละ 1 ช้อนชา) : ช่วยฆ่าเชื้อโรค

น้ำคั้นจากแคนตาลูปและแตงโม (ครึ่งแก้ว) : ช่วยการทำงานของไต

น้ำคั้นจากตำลึง (5 ช้อนโต๊ะ) : สมานแผลในกระเพาะอาหาร

เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ ไม่ควรดื่มน้ำเอนไซม์ชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ควรดื่มให้หลากหลายชนิด โดยไม่ลืมเพิ่มผักและผลไม้สดในมื้ออาหาร

ไม่ว่าดื่มน้ำผักและผลไม้ชนิดใด ควรกินผักและผลไม้สดร่วมด้วย ทั้งเน้นกินให้หลากหลาย พร้อมออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่นานสุขภาพจะกลับฟื้นคืนเห็นผลทันตา

คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 391 (16 ม.ค.58)

บทความน่าสนใจอื่นๆ

10 สูตรน้ำผักผลไม้ ยกร่างใหม่ สดใส เป๊ะปัง

บ.ก.ขอตอบ : โปรแกรมล้างพิษน้ำตาล เสาร์-อาทิตย์ คลีนง่าย ห่างไกลเบาหวาน

7 ผักผลไม้เด็ด กินต้านโรค