Welcome to Lifestyle Zone!
เค็ม เผ็ด เปรี้ยว หวาน กินไม่พอดีมีโทษ
ประโยชน์และโทษของอาหารรสชาติต่างๆ
รสชาติของอาหารเป็นสิ่งสำคัญในการกินอาหาร เพราะจะทำให้ทราบได้ว่าอาหารชนิดใดมีรสชาติอย่างไร แต่ทราบหรือไม่ว่า ประโยชน์และโทษของอาหารรสชาติต่างๆ มีดีร้ายแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีผลต่อสุขภาพร่างกายของเราด้วย
จุดเริ่มต้นจากลิ้น
คุณสุวิตต์ สารีพันธ์ นักโภชนาการจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รสชาติของอาหารทุกรสไม่ว่าจะเป็นรสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ขม หรือรสเผ็ด ต่างก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะทำหน้าที่สำคัญคือกระตุ้นให้ร่างกายของเราเกิดความอยากกินอาหาร
ทั้งนี้กระบวนการรับรสของร่างกายเริ่มต้นที่ลิ้นโดยบริเวณผิวหนังด้านบนของลิ้นจะมีปุ่มรับรสหรือ Taste bud กระจายอยู่ทั่วไป ภายในของปุ่มรับรสจะประกอบไปด้วยเซลล์รับรสจำนวนมาก เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป อาหารเหล่านั้นที่ถูกฟันเคี้ยวจนละเอียด ได้น้ำบางส่วน ซึ่งจะผสมกับน้ำลาย ไปสัมผัสกับปุ่มรับรสตามตำแหน่งต่างๆ บนลิ้นแยกแยะรสชาติ
โดยทั่วไปเซลล์ในปุ่มรับรสจะมีอายุเพียง 7 วันเท่านั้นก็หมดอายุขัย ปุ่มรับรสบนลิ้นจะมีประสิทธิภาพมากในวัยผู้ใหญ่ และจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ผู้สูงอายุจึงมักประสบปัญหาเรื่องกินอาหารไม่อร่อยเพราะไม่ค่อยรู้รส
ตามปกติลิ้นของคนเราจะสามารถรับรสได้เพียงสี่ชนิดเท่านั้น คือ รสหวาน เค็ม เปรี้ยว และขม ซึ่งในแต่ละบริเวณบนลิ้นจะมีความไวต่อการรับรสต่างชนิดกัน เช่น
ปลายลิ้น มีความไวต่อการรับรสหวาน โคนลิ้น มีความไวต่อการรับ รสขม ด้านข้างลิ้น มีความไวต่อการรับ รสเปรี้ยว ส่วนรสเค็ม นั้นตำแหน่งการรับรสใกล้เคียงกับรสหวาน นั่นคืออยู่ใกล้บริเวณ ปลายลิ้น
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรสชาติ
ตามตำราแพทย์แผนจีน รสชาติของอาหารทุกชนิดมีความสำคัญต่ออวัยวะภายในร่างกายมนุษย์แทบทั้งสิ้น แม้ว่ารสชาติของอาหารจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นรสหวาน เค็ม เผ็ด หรือรสเปรี้ยว แทนที่จะได้ประโยชน์ อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
ประโยชน์และโทษของอาหารรสชาติต่างๆ มีอะไรบ้าง
อาหารรสหวาน
เมื่อพูดถึงที่มาของความหวาน น้ำตาลมักเป็นอันดับต้นๆ ที่เรานึกถึง ทั้งนี้น้ำตาลมักเป็นอันดับต้นๆ ที่เรานึกถึง ทั้งนี้น้ำตาลจัดอยู่ในอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานต่อร่างกายในทันทีที่กินเข้าไป ส่งผลให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของเราควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วยฮอร์โมนชื่อ อินซูลิน (Insulin) ซึ่งมีหน้าที่ลดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดและมีฮอร์โมนชื่อกลูคากอน (glucagon) คอยทำหน้าที่เพิ่มระดับกลูโคส ซึ่งร่างกายไม่สามารถควบคุมประมาณน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำกว่าปกติ อาจทำให้เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน และมีอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้
นอกจากนั้นรสหวานช่วยส่งเสริมการทำงานของกระเพาะอาหารและม้าม รสหวานมีสรรพคุณทางยาช่วย รักษาอาการปวดเกร็งตามกล้ามเนื้อ แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงกำลัง ทำให้ร่างกายรู้สึกชุ่มชื่น และแก้กระหาย โดยมากรสหวานที่เรารับประทานจะได้จากน้ำตาล น้ำผึ้ง ผักและผลไม้สุกบางชนิด เช่น กล้วย ลิ้นจี่ อ้อย มะละกอ ฯลฯ
อันตรายที่มากับรสหวาน
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
อาหารรสเผ็ด
แหล่งที่มาของอาหารรสเผ็ดร้อนมักจะอยู่ในผักและสมุนไพรกลุ่มเครื่องเทศ เช่น กานพลู กระเทียม และที่ขาดไม่ได้คือ พริก
ความเผ็ดของรสชาติอาหารช่วยให้การทำงานของปอดและลำไส้ใหญ่เป็นไปตามปกติ ความเผ็ดร้อน ช่วยให้ เรารับประทานอาหรได้มากกว่าปกติ และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกายไปในตัว
นอกจากนั้นอาหารรสเผ็ดยังช่วย ขับเหงื่อ ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้อาการจุก เสียด แน่น เฟ้อ ช่วยขับเสมหะ ทำให้จมูกโล่งเวลาเป็นหวัด ช่วยลดความดันและไขมันในโลหิตได้อีกด้วย การบริโภคอาหารรสเผ็ดมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดโรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน
โรคที่แฝงมากับการกินอาการรสเผ็ด
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
อาหารรสเค็ม
โซเดียมเป็นส่วนประกอบสำคัยของเกลือ ทำหน้าที่สำคัญในการควบคุมความสมดุลของของแหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิตให้อยู่ใรระดับปกติ ช่วยควบคุมระดับความเป็นกรด-ด่างของเลือด แม้ว่าร่างกายจะผลิตเกลือเพียงน้อยนิด แต่เราไม่เคยขาดเกลือ เพราะร่างกายมีระบบที่สามารถเก็บเกลือไว้อย่างมีประสิทธภาพ และยังปรับตัวต่อปริมาณเกลือที่ลดลงได้ อีกทั้งเกลือยังมีอยู่ในผัก ผลไม้ เครื่องปรุงต่างๆ อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวอีกด้วย
การกินเค็มแต่พอดีจะช่วยขับร้อน แก้อาการเลือดออกตามไรฟัน บำบัดอาการท้องเฟ้อ ขับเสมหะ แก้ปวดฟัน ทำความสะอาดแผล ช่วยเรื่องการขัดเบาของร่างกาย
แหล่งที่มาของรสเค็ม โดยมากมาจากเกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอส และสาหร่ายทะเลบางชนิด
โรคที่ตามมากับการกินเค็ม
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
อาหารรสเปรี้ยว
ความเปรี้ยวมีคุณสมบัติสำคัญในการกระตุ้นตับและถุงน้ำดีให้ปล่อยน้ำย่อย ช่วยในการดูดซึมอาหารของร่างกาย ฟอกเลือด เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับเสมหะ และแก้เลือดออกตามไรฟัน
รสเปรี้ยวนอกจากจะได้จากผลไม้บางชนิด เช่น มะนาว มะกรูด มะขาม มะม่วงดิบ สับปะรด ยังได้จากสารสังเคราะห็ที่เรารู้จักกันดี นั่นคือน้ำส้มสายชู ทั้งนี้ความเปรี้ยวที่ได้จากธรรมชาติ เช่นผลไม้ชนิดต่างๆ ไม่ค่อยมีอันตรายต่อร่างกายมากนัก แต่หากบริโภคมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อร่างการเช่นกัน
โรคที่มากับอาหารรสเปรี้ยว
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 180