Welcome to Lifestyle Zone!

รวยสุขภาพ ดีกว่ารวยเงิน

รวยสุขภาพ ดีกว่ารวยเงิน

โดย ทันตแพทย์สม สุจีรา

สิ่งที่เราควรตระหนักไว้เสมอว่า รวยสุขภาพดีกว่ารวยเงิน ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตความสำเร็จทางการเงินจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าเสียสุขภาพไป และบางครั้งต้องนำเงินที่หามาได้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลจนหมด

คนบางคนพยายามเก็บเงินมาทั้งชีวิต แต่ปล่อยให้สุขภาพเสื่อมโทรม แล้วก็พบว่าเงินทั้งหมดที่หามาไม่สามารถซื้อสุขภาพไว้ได้จึงต้องเสียชีวิตไปอย่างทุกข์ทรมาน

โดยทั่วไปแล้ว หากได้รับพรวิเศษ 3 ข้อให้อธิษฐานได้ตามความฝัน สิ่งที่คนเรามักจะอธิษฐานกันก็คือ ขอให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ขอให้มีครอบครัวที่ดีและขอให้ร่ำรวย

แต่ถ้ามีพรให้เลือกอธิษฐานได้เพียงข้อเดียวสิ่งที่ต้องเลือกเป็นอันดับหนึ่งคือ การมีสุขภาพที่ดี เพราะถ้ามีโรครุมเร้า การจะมีคู่ที่ดีหรือร่ำรวยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ซ้ำยังเป็นภาระให้คู่ครองหรือครอบครัวต้องมาคอยดูแลรักษาอีก ร่างกายที่แข็งแรง คือความสำเร็จที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่หาได้น้อยมากที่ใครจะหันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง จนกว่าจะเจ็บป่วยขึ้นมาจึงค่อยเริ่มรู้สึก แต่ก็มักจะสายเกินไป

คู่ครองดี

ความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคู่ครอง การเรียนการงาน การเงิน ฯลฯ จะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าปราศจากสุขภาพที่แข็งแรง ปัญหาด้านสุขภาพสามารถทำลายความสำเร็จทุกอย่างที่เคยมีมาไดภายในเวลาอันรวดเร็ว

ความสุขของคนที่ยังอยู่ในโลกของโลกียะก็คือ ความสุขที่ได้มาจากการเร้าประสาทสัมผัสนั่นเอง ทั้งรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส หรือนามธรรมทั้งหลายที่เข้ามากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก่อให้เกิดสุขเวทนา ตัณหา อุปาทานดังนั้นเมื่อทวารใดทวารหนึ่งเสียหาย ความสุขที่ได้รับจากทวารนั้นจะหมดไปทันที จะมีประโยชน์อะไรถ้ามีเงินซื้อจอแอลซีดี (LCD) สามมิติราคาหลายแสนบาท แต่ตามองไม่เห็น จะมีประโยชน์อะไรกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่ตัวเองเดินไม่ได้ จะมีประโยชน์อะไรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น ถ้าตัวเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง คือความสำเร็จที่สำคัญที่สุดคนสุขภาพแข็งแรงจะดูสดชื่น หน้าตาผ่องใส มีพลังกายพลังใจสูง ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมไปสู่ความสำเร็จด้านอื่น ๆ อีกด้วยคนเรามักไม่ค่อยรู้ว่า สิ่งที่ตัวเองครอบครองอยู่มีค่ามากแค่ไหนจนกว่าจะสูญเสียมันไป สุขภาพเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิต แต่บางคนไม่เคยทะนุถนอมและดูแลรักษาเลย จนเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาจึงค่อยตระหนัก แต่เมื่อถึงเวลานั้นก็ยากเกินที่จะเยียวยาหรือแม้จะเยียวยารักษาได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจำนวนมากบางครั้งอาจเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตเลยก็ได้

แม้ว่าโรคภัยไข้เจ็บบางชนิดจะเป็นผลมาจากพันธุกรรม ซึ่งมียีนแฝงที่ทำให้เกิดโรคซ่อนอยู่ (Initiator Gene) แต่ยีนนี้จะไม่ทำงาน ถ้าปราศจากการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม (Promoter) เช่น คนที่มียีนมะเร็งปอดแฝงอยู่ แต่ถ้าใช้ชีวิตอย่างมีสติไม่สูบบุหรี่ พยายามหลีกเลี่ยงควันพิษ ไอระเหยต่าง ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยีนมะเร็งที่มีอยู่ก็จะฝ่อไปในที่สุด ไม่สามารถแสดงผลได้ โรคส่วนใหญ่ไม่ได้มีผลมาจากกรรมพันธุ์ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งแวดล้อมก็เป็นสาเหตุก่อโรคได้เช่นกัน ถ้ารู้ตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่ง เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต ตับ หรือแม้แต่โรคประสาท เพราะมีประวัติคนในครอบครัวป่วยก็ต้องเฝ้าระวัง พยายามศึกษาหาข้อมูลการปฏิบัติตน เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดโรค แม้มีโรคประจำตัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

อ่านต่อหน้าที่ 2

ความจริงแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะให้เราไว้อย่างแข็งแกร่งมาก ยกตัวอย่างเช่น “ฟัน” สามารถบดเคี้ยวได้เป็นเวลา 70 ปีโดยที่จะเกิดการสึกเพียงเล็กน้อย ถ้านำเหล็กขนาดเท่ากับฟันมาสีกัน เชื่อได้ว่าไม่เกิน 2 ปีเหล็กนั้นจะกุดจนหมดไป แต่กระนั้นทุกวันนี้ก็มีคนที่ฟันผุ ฟันเสียกันมากมาย ไม่ใช่เพราะธรรมชาติออกแบบมาไม่ดี แต่เพราะคนที่ใช้ไม่เอาใจใส่ดูแลรักษา เช่นเดียวกับอวัยวะอื่น ๆ หัวใจ ไต ตับ ปอด หรือแม้แต่เส้นเลือด ถือว่าเป็นประติมากรรมขั้นสูงสุดของธรรมชาติที่สร้างมาให้ใช้งานได้อย่างน้อย 100 ปี แต่ด้วยการดำรงชีวิตอย่างประมาท ทำให้อายุขัยของอวัยวะสั้นลง

อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างกะทันหันปัจจุบันทันด่วนคือ อุบัติเหตุ แม้จะมีร่างกายที่แข็งแรงเพียงใด แต่เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะมีปัญหาด้านสุขภาพทันที และบางครั้งถึงขนาดสูญเสียอวัยวะ เป็นเจ้าชายนิทรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ การดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะจะช่วยป้องกันได้ พยายามหมั่นฝึกเจริญสติอยู่เสมอ ๆ อุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นผลมาจากกรรมเก่า คนเราสามารถเอาชนะกรรมได้ด้วยสติ ดังที่หลวงพ่อชาเคยกล่าวไว้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนากรรมฐาน”

ความสุข

ตามทฤษฎีของ อับราฮัม มาสโลว์ ปรมาจารย์ด้านจิตวิทยาบอกไว้ว่า มนุษย์จะมีความต้องการทางด้านร่างกายเป็นอันดับแรก เช่น อาหาร ยารักษาโรค การหายใจ การขับถ่ายการนอนหลับ ฯลฯ ตราบใดที่ความต้องการในระดับต่ำสุดนี้ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จะไม่มีความใฝ่ฝันไปถึงความปรารถนาในระดับที่สูงขึ้น และแม้ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตเพียงใด ถ้าความต้องการขั้นพื้นฐานนี้ไม่ได้รับการตอบสนองก็จะหาความสุขไม่ได้ เช่น มาริลีน มอนโร, เอลวิส เพรสลีย์, ไมเคิล แจ็กสัน ฯลฯ ที่ล้วนเสียชีวิตด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด จะเห็นได้ว่า แม้แต่ความต้องการขั้นพื้นฐานอย่างการนอนให้หลับยังทำไม่ได้ การร่ำรวยเป็นพันล้านแต่มีปัญหาสุขภาพไม่ว่ากายหรือใจ ในที่สุดเงินที่มีก็ซื้อความสุขไม่ได้

ความสุขที่แท้จริงมาจากสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งคำว่า “สุขภาพ” แปลตรงตัวก็ได้ความหมายว่า สภาพแห่งสุข เมื่ออายุมากขึ้นจะรู้ว่าสุขภาพที่แข็งแรงมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด แม้มีชีวิตที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่มีสุขภาพแข็งแรงก็จะมีความสุข ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเราในปัจจุบัน ถ้าเทียบแล้ว สะดวกสบายและดีกว่าฮ่องเต้ในสมัยโบราณด้วยซ้ำ สมัยนั้นไม่มีห้องน้ำแบบบ้านในปัจจุบัน ต้องใช้กระโถน ไม่มีระบบท่อ พัดลม เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ยารักษาโรคยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีแต่สมุนไพรซึ่งให้ผลการรักษาไม่แน่นอนซึ่งคนที่ลำบากที่สุดในโลกปัจจุบันก็ยังสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีคุณภาพได้มากกว่าจักรพรรดิสมัยก่อน

ดังนั้นการแสวงหาความสุขในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจ

คอลัมน์บทความ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 381 (16 ส.ค.57)

บมความน่าสนใจอื่นๆ

13 เคล็ดลับ ของผู้ชายสุขภาพดี

พลังสุขภาพจิต กู้วิกฤติเป็นโอกาส

16 สเต็ปวิธีคิด เพื่อสุขภาพจิตดี สไตล์ บ.ก.