Welcome to Lifestyle Zone!

5 วิธีเพิ่มพลังสมอง ด้วยเสียงดนตรี

วิธีเพิ่มพลังสมอง ด้วยเสียงดนตรี

           ในปัจจุบัน เชื่อว่าไม่มีใครไม่ฟังดนตรี รู้ไหมว่า นอกจากเสียงเพลงจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราแล้ว ยังเป็นยาวิเศษที่ช่วยดูแลสมองของเราได้ด้วยล่ะ

การทดลองของนักวิจัยจากวิทยาลัยการแพทย์ลุยวิลล์ ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยืนยันได้ว่า เสียงดนตรีนั้นช่วยชะลอความเสื่อมของ สมองได้ เนื่องจากการศึกษาในแม่ชีสูงอายุสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ฟังดนตรี เป็นประจำ อีกกลุ่มไม่ได้ฟัง ผลการศึกษาพบว่า แม่ชีกลุ่มที่ได้ฟังดนตรีเป็นประจำมีความจำ การอ่านและการเคลื่อนไหวมือดีกว่าแม่ชีอีกกลุ่ม นอกจากนี้ยังพบว่า ดนตรีทำให้มีสมาธิดีขึ้นด้วย

เรามาดูกันเลยว่าจะสามารถใช้ดนตรีเพิ่มพลังสมองได้อย่างไรบ้าง

  1. ฟังเพลงปลุกเซลล์สมอง ดนตรีคือเครื่องมือที่ช่วยสลัดความง่วงเหงาหาวนอนออกจากมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เพราะทันที ที่ได้ยินเสียงเพลง สมองทุกส่วนจะตื่นตัวและทำงาน ร่วมกันอย่างขยันขันแข็ง เริ่มจากสมองส่วนกลีบขมับ (temporal lobe) จะผสมผสานระดับเสียง ทำนอง และจังหวะเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ส่วนสมองซีกซ้ายจะวิเคราะห์ข้อมูลและเนื้อหาที่อยู่ในบทเพลง จากนั้นสมองส่วนลิมบิก (limbic brain) ที่มีหน้าที่สร้างอารมณ์และความรู้สึก จะนำเอาทำนองและเนื้อหาเพลงมาสร้างสรรค์เป็นจินตนาการต่อไป

ร้องเพลง

  1. ปรบมือ เพิ่มความคึกคักให้กระบวนการเรียนรู้ มนุษย์รู้จักจังหวะจากเสียงหัวใจเต้นของแม่ เมื่อแม่ตื่นเต้น ทารก ในครรภ์ก็ทำความรู้จักกับจังหวะเร็ว เมื่อแม่อารมณ์ดี พวกเขาก็รู้จัก จังหวะที่เชื่องช้า จังหวะดนตรีจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นชินมาตั้งแต่เกิด โดยหารู้ไม่ว่า การปรบมือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ ผลการศึกษาของคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเบน-กูเรียน ประเทศอิสราเอล พบว่า เด็กนักเรียนที่ปรบมือตามจังหวะเพลงโดยธรรมชาติ จะเขียนหนังสือสวยและสะกดคำถูกต้องมากกว่าเด็กทั่วไป เพราะการปรบมือต้องอาศัยการทำงานของสมองส่วนฟังเสียง การรับรู้ และการ เคลื่อนไหว สมองของเด็กที่ปรบมือเมื่อได้ยินเสียงเพลงจึงเกิดการพัฒนา ซึ่งนำไปสู่การมีกระบวนการเรียนรู้ที่ดี ฉะนั้นการปรบมือหรือกระทืบเท้าตามจังหวะเพลงจึงเป็นอีก กิจกรรมหนึ่งที่พัฒนาสมองได้เป็นอย่างดี
  2. เล่นดนตรี ปฏิวัติเซลล์สมอง เคยสังเกตกันไหมว่า ทำไมนักดนตรีถึงมีจินตนาการและการเรียนรู้ ดีกว่าคนทั่วไป คำตอบก็คือ การเล่นดนตรีเข้าไปปฏิวัติกระบวนการทำงาน ของสมองให้ดีขึ้นนั่นเองค่ะ อาจารย์สุพัชรากล่าวว่า “เมื่อสมองเกิดการเรียนรู้ใหม่ เช่น เพลงรูปแบบใหม่ ทำนองใหม่ และต้องมีการจดจำเพื่อนำไปใช้ กระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ในเซลล์สมองจะเชื่อมต่อ กันอย่างเป็นระบบ และจะปรับเปลี่ยนรูปทรงพร้อมทั้งแตกกิ่งก้านสาขา เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความท้าทายและความยากของข้อมูลที่แปลกใหม่ จะทำให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทชนิดดีเละฮอร์โมนแห่งความสุข ซึ่งส่ง ผลดีต่อสมองมาก”
  3. ร้องเพลงกระตุ้นความจำ+ความคิดสร้างสรรค์ ยิ่งร้องเพลง ความจำยิ่งดี เป็นคำกล่าวที่ไม่ เกินจริงแน่นอนค่ะ เพราะการร้องเพลงนั้นช่วยกระตุ้น สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ซึ่งทำหน้าที่ เกี่ยวกับความจำโดยตรง ดังจะเห็นได้จากที่โรงเรียน มักสอนเด็กให้ท่องจำตัวอักษรและแบบเรียนต่างๆ ผ่านการร้องเพลง นอกจากนี้ยังเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และช่วย ให้อารมณ์ดี เพราะแม้กระทั่งโมซาร์ท นักประพันธ์เพลง ผู้ยิ่งใหญ่ ก็ยังใช้วิธีฮัมเพลงเบาๆขณะแต่งเพลงไปด้วย การร้องเพลงยังช่วยซ่อมแซมสมองส่วนที่เสียหาย ได้เป็นอย่างดี เช่น กลุ่มบำบัดผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่มีการ รวมตัวกันร้องเพลง เพื่อกระตุ้นให้สมองสร้างเซลล์ ประสาททดแทนส่วนที่เสียหาย การร้องเพลงยังเพิ่ม ประสิทธิภาพด้านการเรียนรู้และสมาธิด้วย เคล็ดลับสำคัญก็คือ ควรร้องเพลงแบบเปล่งเสียง เพราะช่วยให้สมองทำงานหลายหน้าที่และช่วยให้ ออกซิเจนวิ่งเข้าสู่ปอดและหัวใจมากขึ้น
  4. ฟังโมซาร์ท เพิ่มพูนปัญญา ทุกวันนี้นักวิจัยทั่วโลกต่างยอมรับกันว่า เพลงบรรเลงของนักประพันธ์เอกอย่างโมซาร์ทมีส่วนช่วยเพิ่มไอคิวของเด็กได้ แต่ประโยชน์ของเพลงบรรเลงไม่ได้ จำกัดเฉพาะเด็กเท่านั้น เพราะเพลงประเภทนี้มีคลื่นเสียง ระดับปานกลางอยู่ที่ 750 – 800 เฮิรตซ์ ซึ่งถือว่าเป็น คลื่นเสียงที่เป็นมิตรต่อสมอง ทั้งยังช่วยเพิ่มคลื่นสมอง ชนิดดีที่เรียกว่า “แอลฟา” ให้มากขึ้น คลื่นสมองชนิดนี้ส่งผลให้สมองมีกระบวนการคิด ที่ดี เกิดความรู้สึกสงบเยือกเย็น มีสมาธิจดจ่อกับการ ทำงาน ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อผู้ใหญ่ทั้งสิ้น นอกจากเพลงของโมซาร์ทที่ช่วยพัฒนาสมองได้แล้ว การฟังเพลงที่มีคลื่นเสียงระดับปานกลาง เช่น เพลง คลาสสิกทั่วไป เพลงบรรเลงเพื่อการผ่อนคลายอารมณ์ และบทเพลงสวดมนต์ ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน

นับเป็น 5 วิธีง่ายๆ ที่ควรไปทำตามอย่างยิ่ง

(สนันสนุนข้อมูล : คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 295)

บทความน่าสนใจอื่นๆ

ผ่อนคลายกายใจด้วย ดนตรีบำบัด

แก้อารมณ์เสีย ส่งเสริมชีวิตให้ดี ด้วยการ ” ฟังดนตรีตามธาตุ ” กันดีกว่า!