Welcome to Lifestyle Zone!

สูตรวิตามิน แก้อาการอ่อนเพลีย

แก้อาการอ่อนเพลีย

ชีวจิตมีวิธี แก้อาการอ่อนเพลีย มาฝากค่ะ เพราะอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง หรือเรียกย่อๆ ว่า CFS (Chronic Fatigue Syndrome) หรือที่ชาวชีวจิตคุ้นเคยกันดีว่า ไฮโปรไกลซีเมีย (Hypoglycemia) หมายถึง อาการน้ำตาลกลูโคส (น้ำตาลที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย) ในเลือดต่ำ ทำให้มีอาการอ่อนเพลียรวมทั้งนอนไม่หลับ ปวดเมื่อยเนื้อตัวตลอดจนระบบการขับถ่ายรวมไปหมด ทำให้มีอาการอ่อนเพลียอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติซึ่งหากจะตรวจหาสาเหตุด้วยเครื่องมือสมัยใหม่มักไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

อาการดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิด ได้แก่ กินอาหารก่อพิษ เช่น อาการฟาสต์ฟู้ด ขนมหวาน น้ำอัดลม และเนื้อสัตว์ใหญ่ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ ได้แก่ ควันพิษจากรถยนต์หรือการรักษาโรคด้วยยาแผนปัจจุบันบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมสมัยใหม่ที่เร่งรีบแข่งขัน และความเครียด จากการเผชิญปัญหาต่างๆ

นอกจานี้อาการดังกล่าวอาจเกิดจากการขาดฮอร์โน โรคภูมิแพ้ โรคความดันโลหิตต่ำเรื่องรัง ปฏิกิริยาจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในร่างกาย หรือในคนที่เคยป่วยเป็นโรคที่ทำให้ระบบประสาทถูกทำลายหลายคนมีอาการทางจิตร่วมด้วย เช่น ซึมเสร้า และวิตกกังวล

แก้อาการอ่อนเพลีย

ปรับพฤติกรรมแก้อ่อนเพลีย

วิถีชีวิตที่ผิดธรรมชาติ เป็นสาเหตุหลักของอาการอ่อนเพลีย ดังนั้นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจะช่วยให้อาการคุณค่อนๆ ทุเลาค่ะ

  1. ทำดีท็อกซ์เพื่อขับสารพิษ อันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการอ่อนเพลียออกจากร่างกาย
  2. ฝึกการทำสมาธิ ด้วยการนั่งวิปัสสนา ฝึกโยคะ ไทชิ ชี่กง และอื่นๆ เพราะสมาธิสามารถบำบัดภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลอันเป็นหนึ่งในอาการอ่อนเพลียได้ดี
  3. เข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาทุกวัน และควรพักผ่อนให้เพียงพอ
  4. หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ทำให้เครียด ซึมเศร้า ไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานๆ
  5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตนถึงพีค เมื่อร่างกายขับเหงื่อและหลั่งสารสุขแล้ว จะส่งผลให้ร่างกายสดชื่นกระปรคี่กระเปร่าไปทั้งวัน

เดินเพื่อลดอาการอ่อนเพลีย

สำหรับคนที่อ่อนเพลียจนออกกำลังกายอื่นๆ ไม่ไหว สามารถเริ่มต้นออกกำลังกายง่ายๆ ด้วยการเดินก็ได้ค่ะ อาจจะเดินช้าๆ ชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว หรืออาจจะเดินเร็วๆ สัก ½ – 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอนตอนเช้า

จากนั้นค่อยๆ ปรับความเร้วในการเดินให้เหมาะสมกับระดับความสามารถ (แรง) และความสมบูรณ์ตามสภาพร่างกาย ถ้าเหนื่อก็พัก แล้วค่อยเริ่มใหม่เมื่อพร้อม

ยิ่งคุณเดินมาก ผลดีก็ยิ่งมากตามไปด้วย อาจจะติดแอ๊ปเปิ้ลไปสักผลเอาไว้กินตอนพักเหนื่อย พยายามบังคับตัวเองเพื่อฟื้นฟูสุขภาพคุณให้กลับคืนมาดีเหมือนเดิมให้ได้

เมื่อร่างการเริ่มปรัยตัวได้ และเริ่มกลับมามีกำลังวังชาแล้ว ให้ลองเปลี่ยนมาออกกำลังกายเบาๆ จะเริมจากบิดตัว ยืดแข้งยืดขา หมุนเอวหมุนไหล่ หรือกระโดดไปมาก็ได้ แต่ควรเป็นท่าบริหารที่ต้องหายใจลึกๆ ด้วย จากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปออกกำลังกายอื่นๆ ต่อไปตามที่คุณสนใจ

คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป

วิตามิน… กินต้านอ่อนเพลีย

สำหรับคนที่มีอาการอ่อนเพลียตั้งแต่ 5 อาการชึ้นไป อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง (ต้นตำหรับกูรูชีวจิต) แนะนำวิตามินในการเยียวยาอาการอ่อนเพลียดังนี้ค่ะ

  • วิตามินเบต้า – แคโรทีน 500 IU และวิตามินดี 1,000 IU กินวันละครั้งหลังอาหาร
  • วิตามินบีคอมเพล็กซ์ 50 หรือ 100 มิลลิกรัม เช้า เย็น หลังอาหาร
  • วิตามินซี 500 มิลลิกรัม เช้า กลางวัน เย็น หลังอาหาร
  • วิตามินบี 1 และ บี 16 อย่างละ 100 มิลลิกรัม เช้า เย็น หลังอาหาร
  • วิตามินบี 12 ประมาณ 300 ไมโครกรัม หลังอาหารเช้า
  • โครเมียม ประมาณ 500 ไมโครกรัม หลังอาหารเช้า
  • สูตรสมุนไพรคลายอ่อนเพลีย

    สมุนไพรเหล่านี้สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย หากกินเป้นประจำจะช่วยบรรเทาอาหารอ่อนเพลียได้ค่ะ

  • ดอกกระดังงา นำดอกกระดังงามาตากแห้ง บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป้นยาลูกกลอน กินเมื่อมีอาการ รสสุขุมหอมของดอกกระดังงาจะช่วยบำรุงร่างกาย
  • เนื้อลำไยแห้ง นำเนื้อลำไยมาตากแห้ง จากนั้นนำมาผสมกับน้ำตาลอ้อยแล้วต้มกับน้ำสะอาด ให้พอดื่มได้รสชาติหวานหอม จะช่วยบำรุงกำลัง
  • มะระขี้นก น้ำมะระขี้นกมาปรุงเป็นอาหาร หรือคั้นเป็นน้ำเอนไซม์ก็ได้รสขมของมะระขี้นกมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย
  • เห็ดฟางและเห็ดหูหนู นำเห็ดทั้งสองมาปรุงเป็นอาหาร รสเย็นหวานของเห็ดฟาง และรสจืดหวานของเห็ดหูหนูจะช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลียได้
  • โสมไทย ใช้ส่วนหัวของโสมไทยมาต้มน้ำสะอาดพอเหมาะ ผสมกับยาหอมเล้กน้อย กินแก้อ่อนเพลีย
  • แก้อ่อนเพลียด้วยน้ำมันหอม

    ความเครียดก่เป็นหนึ่งในอาการอ่อนเพลีย ลองใช้น้ำมันหอมเหล่านี้ดูนะคะ

  • ธาตุเจ้าเรือนดิน มะลิ กระดังงา พัทชุลี แฝกหอม
  • ธาตุเจ้าเรือนน้ำ ลาเวนเดอร์ เจอราเนียน โหระพา มะลิ กระดังงา
  • ธาตุเจ้าเรือนลม มะนาว มะกรูด ส้ม ตะไคร้หอม ตะไคร้ เปปเปอร์มินต์
  • ธาตุเจ้าเรือนไฟ โรสแมรี่ ยูคาลิปตัส พิมเสน ขิง กานพลู
  • ใช้สูดดมหรือผสมกับน้ำมันรองพื้น (หมายถึงน้ำมันตัวพา เพื่อเจอจางน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ น้ำมันสวีทอัลมอนด์ น้ำมันเหม็ดดอกทานตะวัน และน้ำมันมะกอกโอลีฟ เป็นต้น) เป็นโลชั่นบำรุงผิวผสมน้ำอุ่นแช่อาบ ทำสเปรย์ฉีดตัวหรือฉีดปรับอากาศ หรือผสมเป็นน้ำมันนวดบริเวณคอ ไหล่ ขมับ หรือจะใช้ทาทั้งตัวก็ได้ (อาจผสมไว้แล้วใส่ขวดลูกกลิ้งเล้กๆ พกติดตัวไว้ใช้ในเวลาที่ต้องการ)

    ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 183